พระราม9 แขวงห้วยขวาง 066 115 6837

tsctheskin.ads@gmail.com

ผมร่วงเยอะมากผู้ชาย – เปิด 3 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้หนุ่ม ๆ หัวล้าน

แก้ปัญหาผมร่วง หัวล้านในผู้ชาย ทำยังไงดี?

เมื่อพูดถึงเรื่องผมร่วง คนมักจะเข้าฝจว่าผู้หญิงประสบปัญหาผมร่วงมากกว่าผู้ชาย ทั้งที่จริงแล้ว ผู้ชายเองก็มีปัญหาผมร่วงเช่นกัน เพียงแค่ผู้ชายนิยมไว้ผมสั้น ทำให้เวลาผมร่วงสังเกตได้ยาก แต่จะเริ่มรู้สึกผมที่ร่วงเยอะมากตอนที่ผมบนหัวเริ่มบางแล้ว และหากสังเกตดี ๆ ผู้ชายจะมีหัวล้านที่เด่นชัดกว่าผู้หญิง ขณะที่ผู้หญิงจะแสดงออกมาเป็นอาการผมบางกลางศีรษะ หรือศีรษะเถิกมากกว่าผมล้านไปเลย

3 สาเหตุที่ทำให้ผู้ชายผมร่วง หัวล้าน

สาเหตุการเกิดผมร่วง หัวล้าน ผมบางในผู้ชาย

ทั้งผู้ชายและผู้หญิงสามารถเกิดปัญหาผมร่วงเยอะมากได้เหมือนกัน แต่ผมที่ร่วงจนกลายเป็นหัวล้านมักจะพบในผู้ชาย ซึ่งก็มีสาเหตุที่น่าสนใจ ดังนี้

1.) กรรมพันธุ์

การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมส่งผลต่อความดกดำและหัวล้านได้ด้วย ครอบครัวที่มีสมาชิกในครอบครัวหัวล้าน สมาชิกในครอบครัวรุ่นต่อไปก็จะมีคนหัวล้านด้วย และลักษณะทางพันธุกรรมนี้จะเด่นชัดในผู้ชายมากกว่า เรียกว่า Male Pattern Baldness สาเหตุหัวล้านจากกรมพันธุ์นี้พบได้ 1 ใน 3 ของผู้ชายทั้งหมด หมายความว่าผู้ชายมากกว่าครึ่งที่หัวล้านรับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมหัวล้านมาจากบรรพบุรุษ มีชื่อเรียกหัวล้านจากกรรมพันธุ์โดยเฉพาะว่า Androgenetic Alopecia ซึ่งสาเหตุของโรคมาจากยีนตัวหนึ่งที่อยู่บนโครโมโซม X ที่ทำให้การรับ receptor บริเวณรากผมทำงานได้ดีขึ้น เป็นสาเหตุที่ผมเส้นเล็กลงตามวัย และค่อย ๆ ร่วง จนร่วงหนักมากถึงขั้นหัวล้าน ปัจจุบันมีวิธีแก้หัวล้านกรรมพันธุ์ด้วยการปลูกผม

2) ฮอร์โมน

ผู้ชายจะมีฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ชื่อว่าฮอร์โมนไดไฮโรเทสโทสเตอโรน (DHT) ซึ่งสืบเนื่องมาจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักของผู้ชาย ฮอร์โมนนี้เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผู้ชายหัวล้านมากกว่าผู้หญิง โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะส่งผลให้เส้นผมค่อย ๆ อ่อนแอลง จนขาดหลุดร่วงง่าย ผมที่เกิดใหม่ก็อ่อนแอจนไม่มีผมเกิดใหม่ในบริเวณที่ฮอร์โมนนี้หนาแน่น ปกติหัวล้านมีหลายแบบ แต่คนที่จะประสบกับฮอร์โมนนี้มากก็คือคนที่มีพันธุกรรมหัวล้านอยู่แล้ว ฮอร์โมน DHT จะกระตุ้นให้เกิดการหัวล้านได้เร็วขึ้น บางคนอาจจะไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT ทั้งหัว ส่วนที่พบฮอร์โมนชนิดนี้น้อยจะอยู่บริเวณท้ายทอย หรือข้างใบหู จะสังเกตได้ว่าส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมไม่ค่อยร่วงเมื่อเทียบกับส่วนอื่น ๆ

3.) ความเครียด

จริง ๆ แล้วความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงเยอะมากทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่เนื่องจากลักษณะนิสัยส่วนใหญ่ของผู้ชายที่มักเก็บความเครียดไว้กับตัว ทำให้ความเครียดลุกลาม ซึ่งความเครียดที่ส่งผลให้เกิดอาการผมร่วงอย่างรุนแรงมี 2 ชนิด ได้แก่

– Telogen Effluvium – ความเครียดชนิดนี้ทำให้เส้นผมที่กำลังเจริญเติบโตหยุดชะงักลง จนกว่าร่างกายจะฟื้นตัวและกลับมาผลิตเส้นผมใหม่

– Alopecia Areata – ความเครียดชนิดนี้จะมีการทำลายรากผมโดยเม็ดเลือดขาว ทำให้ผมร่วงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น

ปัยหาผมร่วงเยอะมากในผู้ชายสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการทางการแพทย์ที่ปัจจุบันพัฒนาไปไกล หากกังวลว่าปลูกผมแล้วต้องผ่าตัดย้ายรากผม สามารถเลือกการรักษาโดยการรักษารากผมโดยไม่ต้องผ่าตัดได้เช่นกัน

การปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ The Skin Clinic

สำหรับผู้ชายที่มองหาการปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัด แนะนำบริการเหล่านี้ที่ The Skin Clinic ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายวิธี ดังนี้

1 ALMI Nano Fat

ALMI Nano Fat

เทคนิค ALMI nano Fat เป็นการสกัดเซลล์ไขมันออกมาฉีดลงบนหนังศีรษะ เพื่อให้เซลล์ไขมันนั้นไปกระตุ้นความแข็งแรงของรากผม มีผมเกิดใหม่ ซึ่งเซลล์ไขมันที่ใช้จะสกัดมาจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการเอง คัดเลือกจากส่วนที่มีไขมันสะสมมาก ข้อดีของวิธีการนี้คือโอกาสแพ้น้อย เพราะไม่ใช้สารแปลกปลอม แต่เป็นไขมันในร่างกายตนเอง

2 RIGENERA Micrograft Hair

RIGENERA Cell Micrograft Hair

วิธีการปลูกผมโดยไม่ผ่าตัด RIGENERA Micrograft Hair เป็นการปลูกผมโดยใช้เครื่อง RIGENERA นำเข้าจากประเทศอิตาลี สกัดเอาเซลล์รากผมที่แข็งแรงบนหนังศีรษะ มักจะเป็นเซลล์รากผมบริเวณที่ไม่โดนรบกวนจากฮอร์โมน DHT เมื่อได้เซลล์รากผมที่แข็งแรงแล้วจึงปลูกกลับเข้าไปยังหนังศีรษะ

3 FRM Anti – Hair Loss

FRM Anti-Hair Loss

การกระตุ้นรากผมให้แข็งแรงด้วยเครื่องเลเซอร์ FRM วิธีนี้จะใช้คลื่นวิทยุ RF ในการกระตุ้นรากผม สร้างคอลลาเจนบนหนังศีรษะ ร่วมกับการใช้เข็ม Microneedle ในการเปิดรูขุมขนบนหนังศีรษะ จากนั้นฉีด PRP Premium เข้มข้นลงไป ช่วยให้รากผมแข็งแรง ผมขึ้นใหม่มีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย

การกระตุ้นรากผมสำหรับคนผมบางที่ The Skin Clinic ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์การปลูกผมมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง LINE ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ตอบคำถามโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

READ MORE >>>