พระราม9 แขวงห้วยขวาง 066 115 6837

tsctheskin.ads@gmail.com

โรคดึงผมตัวเอง เกิดจากอะไร? ระวังเจอปัญหาหัวล้านเป็นหย่อมๆ

จริงไหม? ดึงผมตัวเองบ่อยเสี่ยงหัวล้านถาวร

ยอมรับเลยว่าสภาพแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัว มักเป็นสิ่งเร้าที่กระตุ้นให้คนเกิดความเครียดและความกังวลได้ง่ายขึ้น นั่นจึงทำให้หลายคนตกอยู่ในโรคทางจิตเวชแบบไม่รู้ตัว ที่เข้าใจผิดคิดว่าพฤติกรรมต่าง ๆ ที่แสดงออกมา เป็นเพียงพฤติกรรมทั่วไปที่ไม่ได้ส่งผลทางด้านลบต่อชีวิต โดยหนึ่งในโรคทางจิตเวชที่พบได้บ่อยในปัจจุบันคือ ‘โรคดึงผมตัวเอง’ ที่ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และยิ่งเพิ่มความเครียดอีกครั้ง เมื่อสังเกตเห็นว่าผมบริเวณที่ดึงเริ่มมีอาการหัวล้านเป็นหย่อม ๆ หรือดึงผมจนหัวล้านแทบจะทั้งหมดแล้ว 

ดังนั้น คงไม่ใช่เรื่องดีนักหากคุณจะปล่อยปัญหานี้เอาไว้แบบเรื้อรัง เพราะมันไม่ได้ส่งผลต่อสภาพจิตใจและอารมณ์เท่านั้น แต่โรคดึงผมตัวเองยังเป็นปัญหาที่ทำลายบุคลิกภาพ รูปลักษณ์ และความมั่นใจได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนเข้ารับการรักษาให้เส้นผมกลับมาอยู่ในสภาพเดิม มาเช็คข้อมูลให้แน่ใจก่อนดีกว่าว่าโรคดึงผมตัวเอง เกิดจากอะไร? แล้วคุณมีความเสี่ยงต่อโรคนี้หรือไม่

ผู้หญิงดึงผมตัวเอง
โรคดึงผมตัวเองเป็นโรคทางจิตเวช

โรคดึงผมตัวเองเกิดจากสาเหตุอะไร?

โรคดึงผมตนเอง (Trichotillomania) เป็นโรคผมร่วงชนิดหนึ่งที่เกิดมาจากการดึงหรือถอนผมตัวเอง สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากความตั้งใจและไม่ตั้งใจ ที่สำคัญยังพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย แม้ในวัยเด็กอาการอาจไม่รุนแรงนัก แต่หากปล่อยไว้จนถึงวัยผู้ใหญ่จะทำให้มีอาการเรื้อรัง เสี่ยงดึงผมตัวเองจนหัวล้าน และรักษาได้ยาก โดยพฤติกรรมการถอนผมเกิดมาจากการที่ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายหนังศีรษะ คัน หรือรู้สึกว่าเส้นผมไม่ตรงเรียบจนอยากดึงออก เมื่อได้ถอนผมแล้วจะรู้สึกสบายใจและโล่งใจขึ้น โดยปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นโรคดึงผมตัวเอง (อ้างอิง Rama Channel) มีดังนี้ 

1. โรคทางจิตเวช เช่น โรคย้ำคิดย้ำทำ ภาวะซึมเศร้า

2. เกิดจากพันธุกรรมหรือสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคดึงผมเหมือนกัน

3. ความผิดปกติทางสมองและสารเคมีในสมอง 

4. ผู้ป่วยสมาธิสั้น 

5. มีความเครียดและเลือกขจัดความเครียดด้วยการถอนผม 

6. มีปัญหาด้านการเข้าสังคม  

ดังนั้น หากใครที่รู้ตัวว่าชอบดึงผมตัวเอง หรือมีคนรอบข้างเริ่มทักว่าคุณมีพฤติกรรมดังกล่าว ทางแก้ไขที่ดีที่สุดสำหรับโรคดึงผมตัวเองคือให้เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อให้แพทย์ประเมินอาการและหาความผิดปกติทางจิตที่อาจมีร่วมด้วย ที่สำคัญตัวคุณเองต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวันด้วยเช่นกัน หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้รู้สึกอยากถอนผม เช่น ความเครียด ความกังวล และอื่น ๆ หากทำได้ปัญหาที่เผชิญจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

หัวล้านเป็นหย่อมเพราะโรคดึงผม ปลูกผมได้หรือไม่?

หลายคนตั้งคำถามว่าดึงผมตัวเอง ผมจะขึ้นไหม? คำตอบคือเส้นผมสามารถขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง เนื่องจากหนังศีรษะของคนเรามีรูขุมขนประมาณ 100,000 รูขุมขน ที่ทำหน้าที่ผลิตเส้นขนใหม่แทนที่เส้นขนเก่าที่หลุดร่วงออกไป แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเส้นผมจะขึ้นได้ใหม่แบบไม่จำกัด เพราะหากมีอาการผมร่วงหรือมีการถอนผมตรงบริเวณเดิมซ้ำ ๆ นอกจากจะทำให้รูขุมขนได้รับความเสียหายแล้ว หากมีปัจจัยเรื่องอายุหรือปัญหาด้านสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะหยุดผลิตเส้นผม จนท้ายที่สุดเส้นผมบริเวณดังกล่าวจะหลุดร่วงไปแบบถาวร (อ้างอิง healthline

ทีมแพทย์ The Skin Clinic 
หัวล้านเป็นหย่อมปลูกผมได้ไหม

โดยทางเลือกของคนที่เผชิญหน้าปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้านคือเข้ารับการปลูกผมด้วยเทคนิคต่าง ๆ ที่ทาง The Skin Clinic ให้บริการ ได้แก่ เทคนิค Long Hair FUE  FUE + DHI และ Long Hair FUI นั่นจึงทำให้คนตั้งข้อสงสัยว่านอกจากคนทั่วไปสามารถเข้ารับการปลูกผมได้ แล้วกลุ่มผู้ป่วยโรคดึงผม (จนหัวล้าน) สามารถเข้ารับการปลูกผมเทคนิคต่าง ๆ ได้หรือไม่? คำตอบคือ ‘ได้’ แต่ทั้งนี้คนไข้ที่เข้ารับการปลูกผมจำเป็นต้องมีผมตรงบริเวณท้ายทอยหลงเหลืออยู่ เพื่อให้เพียงพอต่อการย้ายเซลล์รากผม แต่หากใครที่ไม่มีผมท้ายทอยหลงเหลืออยู่เลย หรือมีเพียงไรผมอ่อน ๆ แนะนำให้ทำการกระตุ้นรากผมด้วยเทคนิค ALMI Nano Fat Transfer เสียก่อน

ALMI Nano Fat Transfer 

สำหรับ ALMI Nano Fat Transfer เป็นการกระตุ้นรากผมด้วยไขมันตัวเอง โดยไขมันที่ได้แพทย์จะดูดมาจากไขมันส่วนเกินตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผู้เข้ารับการรักษา เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพก ฯลฯ จากนั้นนำมาผ่านการสกัด 4 ขั้นตอน เพื่อให้ได้ไขมันที่แข็งแรงและมีคุณภาพ จากนั้นนำกลับไปฉีดบริเวณหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นรากผมให้มีความแข็งแรง ดกหนา งอกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เจ็บ ไม่มีแผลเป็น และทันทีที่มีเส้นผมงอกใหม่ จึงจะสามารถนำเซลล์ผมจากบริเวณดังกล่าวไปปลูกเพื่อแก้ไขปัญหาหัวล้านได้นั่นเอง 

ข้อควรรู้ : เส้นผมบริเวณท้ายทอยเป็นเส้นผมที่แข็งแรงที่สุด ไม่ไวต่อฮอร์โมน และช่วยป้องกันการหลุดร่วงในอนาคตได้ดี

โปรโมชั่นปลูกผม ALMI Nano Fat Transfer ที่ The Skin Clinic

นอกจากเทคนิค ALMI Nano Fat Transfer ที่ช่วยกระตุ้นรากผมได้แล้ว ที่ The Skin Clinic ยังมีนวัตกรรมดูแลเส้นผมเพิ่มเติม คือ ฉีดสเต็มเซลล์ RIGENERA และเซ็ตผลิตภัณฑ์ดูแลผม Dr.Story เป็นทางเลือกในการดูแลผมให้กับคนไข้ 

ฉีดสเต็มเซลล์ RIGENERA

RIGENERA เป็นเครื่องมือที่นำเข้าจากประเทศอิตาลี ใช้สำหรับการคัดแยกเนื้อเยื่อจากหนังศีรษะด้านหลัง เพื่อนำไปสร้างเป็นแนวผมใหม่ตามต้องการ โดยรากผมที่ถูกสกัดออกมาจะช่วยป้องกันผลกระทบจากฮอร์โมนเพศชาย กระตุ้นให้รากผมแตกตัวและเจริญเติบโตเป็นเส้นผมใหม่จำนวนมาก เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง และหัวล้านกลางหัว

โปรโมชั่นปลูกผม RIGENERA Micrograft Hair ที่ The Skin Clinic

เซ็ตผลิตภัณฑ์ดูแลผม Dr.Story

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วง (ไม่ใช่น้ำยาปลูกผม) ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีปัญหาเส้นผมกวนใจ ในเซ็ตผลิตภัณฑ์ดูแลผม Dr.Story ประกอบด้วย 

– Hair Serum ลดการหลุดร่วงของเส้นผม ป้องกันอาการคันศีรษะ และกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม

– Hair Tonic เปลี่ยนผมขาวให้เป็นผมดำแบบไม่ต้องย้อมผม ไม่เป็นอันตราย ป้องกันรังแค และช่วยสร้างความแข็งแรงให้รากผมและเส้นผม 

– Shampoo แชมพูทำความสะอาดหนังศีรษะและเส้นผม ปลอดภัยด้วยสารสกัดธรรมชาติจากประเทศเกาหลี ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม และป้องกันอาการคันที่เกิดจากรังแค 

หากใครมีปัญหาเรื่องหนังศีรษะ ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง LINE ได้ฟรี โดยทีมแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปลูกผม หรือเทคนิคการดูแลเส้นผมที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน รับรองว่าปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตามความต้องการแน่นอน

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.psychologytoday.com

READ MORE>>>