รู้ทันผมแตกปลาย พร้อมวิธีบำรุงผมให้สวย
เส้นผมเป็นส่วนเล็ก ๆ หลายเส้นรวมกันอยู่บนหนังศีรษะ เวลาที่เส้นผมมีปัญหาจึงมักจะเกิดกับเส้นผมหลายเส้นจนสังเกตได้ ปัญหาผมแตกปลายเองก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเส้นผมแต่ละเส้น และเวลาเกิดขึ้นจะสังเกตได้บนเส้นผมหลาย ๆ เส้นบนศีรษะ บางคนอาจจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องผมแตกปลายมากนัก แต่ปัญหาผมแตกปลายนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของรากผมและเส้นผม ทำให้ผมชี้ฟูจนต้องหาทางแก้ คนที่ประสบปัญหาผมแตกปลายจึงไม่ควรละเลยปัญหานี้เด็ดขาด
ประเภทของผมแตกปลาย
ผมแตกปลายเป็นปัญหาที่เกือบจะทุกคนต้องเจอ แต่น้อยคนจะรู้ว่าผมแตกปลายมีหลายแบบ และแต่ละแบบมีการรักษาต่างกัน เว็บไซต์ All Things Hair ได้แบ่งประเภทของผมแตกปลายออกได้เป็น 6 แบบหลัก ๆ ดังนี้
1.) Baby Split
ผมแตกปลายแบบแรกเป็นแบบแตกเบา ๆ มีรอยแยกของเส้นผมเล็กน้อย ต้องมองใกล้ ๆ ถึงจะเห็น แก้ไขได้โดยการบำรุงผมด้วยครีมนวดผม และเซรั่ม
2.) Y Split
ผมแตกปลายแบบ Y Split คล้ายกับแบบแรก แต่จะมีการแตกปลายที่ยาวกว่า สามารถแก้ไขได้ด้วยการหมักผมหนาเช่นกัน แต่ต้องรีบบำรุง เพราะหากปล่อยไว้จะแตกปลายมากขึ้น
3.) Taper
การแตกปลายแบบ Taper บางคนอาจไม่รู้ว่าผมแตกปลาย เพราะไม่มีส่วนที่แตกปลายให้เห็น แต่ปลายผมบางลงอย่างเห็นได้ชัด รักษาได้โดยการเล็มปลายผมออกและบำรุง
4.) Incomplete
ผมแตกปลายแบบไม่สมบูรณ์หรือ Incomplete เป็นการแตกปลายในเส้นผม คือมีห่วงตรงกลาง ปลายผมยังคงแนบกัน แต่ตรงกลางแตกออก สามารถบำรุงให้เกล็ดผมประสานกันได้
5.) Tree
การแตกปลายแบบ Tree หรือต้นไม้คือการที่ผมแตกปลายแตกแขนงไปไกล ไม่สามารถสมานเกล็ดผมที่เปิดออกได้แล้ว ต้องตัดผมแตกปลายแล้วบำรุงเพิ่มเติมเท่านั้น
6.) Feather
ผมแตกปลายแบบ Feather หรือขนนกเป็นการที่ผมแตกปลายเป็นเส้นบางมาก ๆ หลายแฉก เป็นผมแตกปลายที่แสดงถึงความอ่อนแอของเส้นผม ให้ตัดทิ้งและบำรุงโดยด่วน
การแตกปลายแต่ละแบบของเส้นผมช่วยแสดงให้เห็นถึงวิธีการรักษาได้เป็นอย่างดี ลองหมั่นสังเกตผมแตกปลายของตัวเองและหาททางรักษาอย่างถูกวิธีกันเถอะ
ผมแตกปลายเกิดจากอะไร
สาเหตุของการเกิดผมแตกปลายหลัก ๆ มาจากการที่เส้นผมได้รับสารอาหารผมดกดำไม่เพียงพอ ทำให้เส้นผมอ่อนแอลง เกล็ดผมเปิดออก และเกิดเป็นผมแตกปลายได้ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เส้นผมอ่อนแอมีดังนี้
– การทำเคมี
สารเคมีที่ถูกใช้บนเส้นผมและหนังศีรษะทำให้รากผมอ่อนแอลง และเส้นผมเปราะบางกว่าเดิม ทำให้ผมแตกปลายได้ง่ายขึ้น การทำเคมีที่คนนิยม เช่น การทำสี การยืดผมถาวร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้เส้นผมอ่อนแอลงทั้งสิ้น
– การใช้ความร้อนกับเส้นผม
ความร้อนเป็นตัวการทำลายความแข็งแรงภายในเส้นผม ความร้อนที่คนคุ้นชิน เช่น การหนีบผมตรง การใช้ลมร้อนเป่าผม การหนีบผมด้วยความร้อน เพื่อปกป้องเส้นผม ก่อนใช้ความร้อนควรทาเซรั่มกันความร้อนบนผมทุกครั้ง
– การสระผมบ่อยเกินไป
ผมต้องการการทำความสะอาดด้วยการสระผม แต่ก็ไม่ได้ต้องการการสระผมเป็นประจำทุกวัน เพราะจะทำให้ผมยิ่งแห้งกว่าเดิมและแตกปลายได้ง่ายยิ่งขึ้น ควรสระผมอย่างมากวันเว้นวันก็เพียงพอแล้ว
– การขาดการบำรุงเส้นผม
ผมต้องการการบำรุงเช่นเดียวกับร่างกายส่วนอื่น ๆ การละเลยความแข็งแรงของเส้นผม ทำให้เส้นผมได้รับการบำรุงที่น้อยลง และอ่อนแอตั้งแต่รากผมมาจนถึงเส้นผม
– การเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะ
บางครั้งเมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะที่มากขึ้น เช่น การไปเที่ยวทะเล ต้องดูแลผมหลังไปทะเลด้วย เพื่อให้เส้นผมไม่เสียหลังกลับจากเที่ยว มีผมสุขภาพดีไปนาน ๆ
ผมแตกปลายแก้ไขได้ด้วยการเติมความแข็งแรงให้กับเส้นผม หมั่นตัดเล็มผมแตกปลายเป็นประจำ แต่ควรระวังเรื่องความอ่อนแอของรากผมด้วย เพราะนอกจากจะแสดงออกทางผมแตกปลายแล้วอาจจะทำให้ผมร่วงหนักมากจนต้องหาทางแก้ไข คนที่บำรุงตามวิธีธรรมชาติแล้วเห็นผลช้า อยากลองวิธีการทางการแพทย์ The Skin Clinic แนะนำบริการบำรุงรากผมโดยไม่ต้องผ่าตัด ดังนี้
– ALMI Nano Fat
การบำรุงรากผมด้วยการฉีดเซลล์ไขมันลงไปบนหนังศีรษะ ทำหน้าที่เป็น PRP ที่มีประสิทธิภาพ โดยเซลล์ไขมันนี้สกัดมาจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการเอง โอกาสแพ้น้อยมาก และเห็นผลลัพธ์ได้ดี
– RIGENERA Micrograft Hair
วิธีการบำรุงรากผมด้วยการสกัดเซลล์รากผม โดยทีมแพทย์จะเลือกรากผมส่วนที่แข็งแรงมาสกัดผ่านเครื่อง RIGENERA นำเข้าจากประเทศอิตาลี จากนั้นนำไปฉีดลงบนหนังศีรษะ ช่วยให้มีผมเกิดใหม่ที่แข็งแรง
– FRM Anti – Hair Loss
การกระตุ้นรากผมและหนังศีรษะด้วยการส่งเลเซอร์ด้วยเครื่อง Secret FRM Microneedle RF แล้วเปิดรูขุมขนหนังศีรษะด้วยเข็ม Microneedle จากนั้นฉีด PRP Premium ลงไป กระตุ้นการทำงานของรากผมได้เป็นอย่างดี
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม สามารถปรึกษษ The Skin Clinic ได้ทาง LINE ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ตอบคำถามโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง คำแนะนำมีประโยชน์แน่นอน
READ MORE >>>
