แก้ผมร่วงด้วยสังกะสีต้องทำยังไง
ปัญหาผมร่วงกวนใจจนต้องหาทางออก มีคำแนะนำเกี่ยวกับสังกะสี หรือ Zinc ว่ามีสรรพคุณในการแก้ปัญหาผมร่วง บำรุงผมให้แข็งแรง จึงชวนมาหาคำตอบว่าแร่ธาตุสังกะสีช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมจริงไหม แล้วได้ผลดีแค่ไหน สำหรับเป็นทางเลือกให้คนที่ประสบปัญหาผมร่วงอย่างรุนแรง
คุณสมบัติของสังกะสี (Zinc)

สังกะสีหรือซิงค์ (Zinc) เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่พบได้ตามธรรมชาติ มักจะพบในชั้นดินและชั้นหิน รวมถึงสิ่งมีชีวิตบางประเภท เช่น หอยนางรม เห็ด ไข่ ผักและผลไม้ เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม ถั่วลิสง ปริมาณของซิงค์จะแตกต่างกันออกไป ทำให้มีการสกัดซิงค์ออกมาเป็นอาหารเสริม เพื่อความสะดวกในการรับประทาน โดยซิงค์หรือสังกะสีมีคุณสมบัติที่ดีต่อร่างกาย ดังนี้
– เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
สังกะสีเป็นส่วนประกอบหนึ่งของการทำงานเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยจะอยู่ที่บริเวณ T-Cells คุณสมบัติของซิงค์จะทำหน้าที่ลดการอักเสบ ลดโอกาสในการเพิ่มปริมาณของเชื้อไวรัส ผู้ที่ได้รับซิงค์เพียงพอจึงมักไม่แสดงอาการป่วยหนัก ช่วยบรรเทาอาการของโรคได้ในระดับหนึ่ง
– สมานบาดแผลให้หายเร็ว
ซิงค์มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์เนื้อเยื่อขึ้นมาสมานบาดแผล ทำให้แผลปิดสนิท และหายเร็วขึ้น สามารถใช้ในกรณีแผลอักเสบจากสิวได้ด้วย ซิงค์จึงมักถูกใช้ในกระบวนการรักษาสิวเช่นกัน
– ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย
แร่ธาตุซิงค์ช่วยให้การทำงานของฮอร์โมนเพศชายสมดุลขึ้น นอกจากนั้นยังมีผลการศึกษารับรองว่าแร่ธาตุซิงค์มีส่วนช่วยในการบำรุงอสุจิให้แข็งแรง เหมาะสำหรับผู้ชายที่อยากมีบุตร
– บำรุงเส้นผมและเล็บให้แข็งแรง
แร่ธาตุซิงค์มีคุณสมบัติในการซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ จึงมีส่วนสำคัญในการฟื้นบำรุงเกล็ดผมและรากผมที่อ่อนแอลงให้กลับมาแข็งแรงขึ้น รวมถึงเป็นอาหารของเล็บ ช่วยให้เล็บแข็งแรง ไม่หักง่าย
สังกะสีหรือซิงค์เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมาก และมีส่วนช่วยในการคืนความแข็งแรงให้ผม คนที่ผมร่วงมาก รากผมไม่แข็งแรงสามารถเลือกอาหารเสริมมาเป็นตัวช่วยในการบำรุงเส้นผมได้
การเลือกอาหารเสริมที่มีสังกะสี (Zinc)

อาหารเสริมซิงค์มีวางจำหน่ายหลายแบรนด์ ก่อนการซื้อจึงควรรู้หลักการเลือกที่ปลอดภัย สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
– วางจำหน่ายในร้านขายยา
อาหารเสริมควรวางจำหน่ายในร้านขายยา เพื่อให้ผู้บริโภคได้สอบถามรายละเอียด หรือข้อมูลอย่างครบถ้วน ปัจจุบันร้านเวชสำอางหลายแห่งก็มีโซนร้านขายยาเอาไว้เพื่อผู้บริโภค ควรเลือกซื้อจากร้านที่มีโซนร้านขายยาโดยเฉพาะจะปลอดภัยกว่า
– ผ่านการรับรองมาตรฐนจาก อย.
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. มีหน้าที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพก่อนวางจำหน่าย อาหารเสริมที่ดีจึงต้องมีเครื่องหมาย อย. กำกับไว้เท่านั้น
– มีปริมาณสังกะสีเพียงพอต่อการบริโภค
การได้รับซิงค์ในแต่ละวันจะมีการกำหนดปริมาณเอาไว้ สามารถแบ่งกว้าง ๆ ได้ตามช่วงวัยและสภาวะร่างกาย โดยเด็กอายุไม่เกิน 10 ขวบควรได้รับซิงค์ 3 – 8 มิลลิกรัม/วัน ในขณะที่ผู้ใหญ่ควรได้รับซิงค์ 9 – 11 มิลลิกรัม/วัน แต่ควรรับมากขึ้นหากมีสภาวะร่างกายต้องการการบำรุง เช่น เป็นหญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร เป็นต้น
– ฉลากชัดเจน ข้อมูลครบถ้วน
อาหารเสริมที่ดีจะต้องมีความชัดเจน ฉลากควรมีชื่อสินค้า ปริมาณซิงค์ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค พร้อมแนะนำวิธีการกินให้เข้าใจ มีส่วนผสม และที่อยู่โรงงานการผลิตที่สามารถตรวจสอบได้ เพิ่มความอุ่นใจให้ผู้บริโภค
ถึงแม้ซิงค์ หรือสังกะสีจะมีคุณสมบัติในการลดผมร่วง และบำรุงรากผม แต่บางปัญหาอย่างผมบางกลางหัว หรือหัวล้านกรรมพันธุ์ก็ยากที่จะแก้ได้ด้วยซิงค์อย่างเดียว จึงควรมองหาแนวทางการรักษาอื่น ๆ ประกอบด้วย
ผมร่วงมาก หัวเริ่มล้าน ปรึกษา The Skin Clinic
เรื่องผมร่วงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย เมื่อไหร่ก็ตามที่เส้นผมหลุดร่วงมากกว่า 100 เส้น/วัน นั่นคือสัญญาณของผมบาง และอาจทำให้หัวล้านได้ถ้าไม่รีบแก้ไข The Skin Clinic แนะนำตัวช่วยคนผมร่วง ผมบาง หัวล้าน ด้วยเทคนิคปลูกผมและกระตุ้นรากผม ดังนี้
– เทคนิค FRM Anti-Hair Loss
การกระตุ้นรากผมให้แข็งแรงด้วยนวัตกรรมจากต่างประเทศ เห็นผลดีกว่าการฉีด Growth Factor ทั่วไป ด้วยการใช้เทคโนโลยี Secret FRM Microneedle RF ในการเปิดรากผมบนหนังศีรษะ แล้วฉีด Premium Growth Factor ลงไป ช่วยให้รากผมค่อย ๆ ฟื้นตัว เกิดผมงอกใหม่ที่แข็งแรง ผมดกดำตามธรรมชาติ
– เทคนิค ALMI Nano Fat
การกระตุ้นรากผมอีกวิธีหนึ่ง แต่วิธีนี้จะกระตุ้นรากผมโดยใช้ไขมันตนเอง โอกาสแพ้น้อย ทีมแพทย์จะสกัดไขมันมาจากร่างกายส่วนต่าง ๆ แล้วคัดเลือกเฉพาะไขมันที่แข็งแรง คุณภาพดีมาฉีดกลับไปยังหนังศีรษะ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผมใหม่ เกิดผมใหม่บนหนังศีรษะ ชะลอการเกิดผมร่วง
– เทคนิค RIGENERA Cell Micrograft Hair
การฉีดสเต็มเซลล์ปลูกผม โดยทีมแพทย์จะใช้สเต็มเซลล์ที่สกัดมาจากเนื้อเยื่อหนังศีรษะบริเวณที่ไม่ถูกฮอร์โมนเพศชายรบกวน สกัดจนได้สเต็มเซลล์ที่แข็งแรง แล้วปลูกถ่ายลงบนศีรษะส่วนที่ผมบางหรือล้าน ช่วยให้ผมบริเวณนั้นแข็งแรงขึ้น หลุดร่วงน้อยลง
– เทคนิค FUE
การปลูกผมโดยที่ไม่ต้องตัดผม ไม่ต้องโกนหัวเหมือนเทคนิคเดิม ๆ เป็นการปลูกผมที่มักเรียกว่า Celebrity Hair Transplant เห็นไรผมตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
– เทคนิค DHI
การปลูฏผมโดยใช้เครื่องมือที่เป็นหัวเจาะขนาดเล็ก เรียกว่า DHI Implanter ช่วยในการคุมทิศทาง แพทย์จึงสามารถกำหนดมุมและองศาของเส้นผมให้จัดเรียงอย่างเป็นธรรมชาติได้
– เทคนิค Advanced FUI
การปลูกผมที่รวมเทคนิค FUE และ DHI เข้าด้วยกัน สามารถทำได้โดยไม่ต้องโกนหัว แพทย์จะใช้เข็ม DHI Implanter ในการปลูกถ่ายเส้นผม ผมที่ปลูกจะยาวกว่าผมจริง จึงได้ความยาวที่เป็นธรรมชาติและกลมกลืนมากขึ้น
เทคโนโลยีดูแลรากผมพัฒนามาไกลมาก สามารถดูแลปัญหาหัวล้านให้กลับมามีผมได้ในเวลาไม่นาน ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับ The Skin Clinic ได้ทาง LINE ตอบคำถามโดยผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
Read More >>>