อยากปลูกผมแบบปลอดภัยต้องรู้อะไรบ้าง? The Skin Clinic มีคำตอบ
ปลูกผมดีไหม? เชื่อว่าคำถามนี้คงเป็นคำถามคาใจ ของผู้ที่มีปัญหาเส้นผมต่าง ๆ ทั้งผมร่วง ผมบาง หัวล้านกลางหัว หรือแม้การเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเส้นผมไม่ได้ช่วยให้บุคลิกภาพดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ใครหลายคน ดังนั้นการแก้ไขอย่างตรงจุดและให้ผลดีที่สุดในปัจจุบันคือ “การปลูกผม” ที่มีหลายเทคนิคให้เลือกใช้บริการ แต่ถึงอย่างไรใช่ว่าทุกคนจะกล้าตัดสินใจปลูกผมแบบทันทีทันใด หลายคนมาพร้อมคำถามมากมายที่มีความเกี่ยวข้องกับผลลัพธ์และความปลอดภัย เพื่อช่วยคลายความสงสัย บทความนี้คุณหมอท็อป จาก The Skin Clinic ตอบ 9 คำถามที่พบบ่อย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเข้ารับการปลูกผมได้ง่ายขึ้น
คำถามยอดฮิตที่คุณควรถามแพทย์ ก่อนตัดสินใจปลูกผม
ปัญหาเส้นผมเป็นปัญหาที่ไม่เข้าใครออกใคร บางคนอาจมีปัญหาเส้นผมที่เกิดจากปัจจัยภายใน เช่น กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน อาการเจ็บป่วย การได้รับยา หรือสารเคมีบางชนิด และบางคนอาจเกิดปัญหาเส้นผม ที่เกิดมาจากพฤติกรรมทำร้ายหนังศีรษะ เช่น การย้อมสีผม การใช้สารเคมี การใช้ความร้อน การสูบบุหรี่ ตลอดจนการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ แต่ไม่ว่าใครที่มีปัญหาเหล่านี้ ก็มักทำให้เกิดความเครียดและสร้างความไม่มั่นใจได้ทุกครั้ง หลายคนจึงหาทางออกให้ปัญหาด้วยการ “ปลูกผม” และแน่นอนว่ามีคนจำนวนไม่น้อยอาจทราบกันดีว่าการเตรียมตัวก่อนปลูกผม เรียนรู้ข้อห้ามก่อนปลูกผม และการดูแลหลังปลูกผม เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะปัจจัยเหล่านี้มักมีผลต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นด้วยเสมอ
นอกจากนี้หลายคนที่มีความสนใจเกี่ยวกับการปลูกผม มักมีข้อสงสัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากความกังวล หรือเคยได้ยินผลลัพธ์ต่าง ๆ มาจากคนใกล้ตัว กระทั่งต้องการปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจ ว่าผลลัพธ์ที่เคยได้ยินมาเป็นความจริงมากน้อยเพียงใด วันนี้คุณหมอท็อป The Skin Clinic แนะนำ 9 คำถามสำคัญที่คนไข้ต้องถามแพทย์ทุกครั้งก่อนตัดสินใจเข้ารับการปลูกผม
Q : การปลูกย้ายเซลล์รากผมเป็นคำตอบในการแก้ไขปัญหาผมร่วงหรือไม่? ที่ช่วยให้เส้นผมหนาและดูดีขึ้น
A : คุณหมอยกตัวอย่าง กรณีที่คนไข้มีอาการเจ็บป่วยด้วยโรค DUPA ที่มีภาวะผมบางทั่วหนังศีรษะ รวมถึงบริเวณท้ายทอยที่มีส่วนสำคัญในการย้ายเซลล์ปลูกผม หากปลูกเคสแบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผลลัพธ์ไม่น่าประทับใจเท่านั้น แต่ยังทำให้ผมด้านหลังดูบางลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นสรุปคือไม่ใช่ทุกเคสที่จะเข้ารับการปลูกผม “แล้วให้ผลดี” ดังนั้นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจเสมอ
Q : การปลูกผมควรปลูกตอนอายุเท่าไหร่?
A : คำตอบนี้สามารถยกตัวอย่างคร่าว ๆ ได้ว่า หากคนไข้มีภาวะผมร่วงที่เกิดจากฮอร์โมน แต่ละช่วงอายุจะมีการแก้ไขปัญหาไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องมีการซักประวัติ สอบถามข้อมูล และปัจจัยต่าง ๆ ที่มีส่วนทำให้คนไข้มีปัญหา เพื่อให้แพทย์พิจารณาการปลูกผมให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน แต่ละช่วงอายุ
Q : แพทย์มีประสบการณ์เกี่ยวกับการปลูกผมมากน้อยเพียงใด? ในแต่ละเดือนได้ทำเคสเยอะหรือไม่
A : คุณหมอเปรียบเทียบแพทย์ปลูกผมเหมือน “นักบิน” หากมีชั่วโมงบินเยอะ ย่อมมาพร้อมทักษะในการแก้ไขปัญหาที่สูงด้วยเช่นกัน แต่ขณะเดียวกันจำนวนปีที่ผ่านไปต้องมีการสะสมจำนวนชั่วโมงในการบิน ดังนั้นคุณหมอจึงแนะนำให้คนไข้สอบถามแพทย์ปลูกผม เกี่ยวกับประสบการณ์ในการปลูกผม คุณหมอผ่านการปลูกผมมากี่เคส ถือเป็นคำถามที่คนไข้ต้องถามทุกครั้งเพื่อผลลัพธ์ความสวยงามและความปลอดภัย
Q : การขอดูรีวิวปลูกผมจากแพทย์
A : คลินิกปลูกผมจำเป็นต้องมีภาพรีวิวก่อน – หลังปลูกผมให้กับคนไข้ พร้อมกับการอธิบายในส่วนต่าง ๆ ของแต่ละเคสให้คนไข้เข้าใจ ว่าการปลูกผมในแต่ละเคสนั้นปัญหาของคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นรีวิวในการปลูกผมเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยเพิ่มการตัดสินใจ โดยทาง The Skin Clinic มีทั้งรีวิวแบบภาพและวิดีโอให้กับคนไข้ เป็นภาพจริงของการปลูกผม ทั้งเคสที่ดีและเคสเสีย (พร้อมอธิบายถึงเหตุผลโดยละเอียด)
Q : ในอนาคตต้องมีการปลูกเซลล์ผมเพิ่มไหมหรือครั้งเดียวจบ?
A : ในส่วนนี้แพทย์จะมีการอธิบาย บางท่านอาจมีความจำเป็นต้องปลูกผมซ้ำ แต่สำหรับบางท่านอาจไม่มีความจำเป็น เพราะการดูแลเส้นผมต้องประคับประคองไปเรื่อย ๆ แต่ละเคสมีปริมาณเส้นผมและผลลัพธ์ที่ต่างกัน ดังนั้นคนไข้ต้องมีการสอบถามแพทย์ว่าในอนาคตต้องมีการปลูกผมเพิ่มไหม บริเวณไหนบ้าง และแพทย์มีการวางแผนอย่างไร
Q : หลังจากปลูกผมแล้วคนไข้จำเป็นต้องกินยาปลูกผมอีกหรือไม่?
A : คุณหมอท็อปอธิบายว่า ยาปลูกผมบางตัวมักมีผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย ตัวอย่าง มักพบผู้ชายจำนวน 2% ที่กินยาปลูกผมแล้วส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ และปลูกผมผู้หญิงมักมีการห้ามกินยาบางตัวเช่นกัน ดังนั้นคุณหมอแนะนำว่าคนไข้ควรถามแพทย์ เพื่อให้แพทย์ให้คำแนะนำแต่ละเคส แต่ละกรณี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระยะยาว
Q : ผลลัพธ์สุดท้ายไม่น่าพอใจ จะทำอย่างไรได้บ้าง?
A : แพทย์จะมีการอธิบายให้คนไข้รับทราบว่า การปลูกผมเป็นการย้ายเซลล์รากผมเก่า (เส้นผมบริเวณท้ายทอย) ที่มีอยู่แล้ว มาปลูกลงตรงบริเวณที่มีปัญหา ดังนั้นสิ่งที่ทำให้การปลูกผมดูดีขึ้นได้ต้องมี 2 ส่วนประกอบร่วมกัน คือ ผมเก่าต้องไม่ร่วงเพิ่มและผมใหม่จะต้องเพิ่มขึ้น 90 – 99% ดังนั้นคนไข้ต้องมีการสอบถามแพทย์ปลูกผมก่อน ว่าหากสุดท้ายผลลัพธ์ไม่น่าพอใจ ทางแพทย์มี Option ที่ช่วยแก้ไขได้ยังไง หรือจะทำยังไงได้ไหม
Q : มีความเสี่ยงอะไรบ้างในการปลูกผม?
A : อาการอักเสบ บวม ปวด ทรงผมไม่เป็นธรรมชาติ ปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้นั้นมักมาจากสภาพร่างกายของคนไข้ แนวผม และองค์ประกอบอื่น ๆ คนไข้ต้องมีการปรึกษากับคุณหมอเพื่อรับฟังปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยที่ The Skin Clinic คนไข้ทุกเคส จะได้เข้ารับการปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพื่อให้ทางคลินิกประเมินความต้องการของคนไข้ ความสามารถของแพทย์ในการปลูกผม ว่าสามารถทำให้ผมของคนไข้เป็นไปตามที่ต้องการได้หรือไม่
Q : หากไม่ได้เข้ารับการปลูกผม ยังมีวิธีอื่นหรือไม่ที่ช่วยให้ผมหนาขึ้น?
A : จริง ๆ แล้วการปลูกผมอาจไม่ใช่ทางออกเสมอไป เพราะปัจจุบันมีหลายวิธี หลาย Option เช่น การทำ PRP เกล็ดเลือด การทำ NANOFAT ใช้ไขมัน รวมไปถึงเครื่องมือต่าง ๆ อย่าง FRM และ RIGENERA ต่างเป็นวิธีที่ให้ผลการรักษาที่แตกต่างกัน เป็นผลลัพธ์เฉพาะบุคคลเท่านั้น ดังนั้นคนไข้สามารถสอบถามแพทย์เพิ่มเติมได้ เพื่อให้แพทย์พิจารณาวิธีที่เหมาะสมให้คนไข้
สามารถเช็กลิสต์คำถามที่ควรถามแพทย์เพิ่มเติมได้ ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้
การปลูกผมมีกี่แบบ แจกลิสต์ปลูกผมแบบปลอดภัย ที่ The Skin Clinic
The Skin Clinic ให้บริการปลูกผมหลายเทคนิค โดยเน้นเทคนิคที่มีความปลอดภัย ไร้แผลเป็น มีความเป็นธรรมชาติ เพื่อช่วยให้คนไข้เสียเวลาพักฟื้นตัวน้อยที่สุด ที่สำคัญยังดำเนินการปลูกผมทุกขั้นตอนโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความชำนาญเฉพาะทางเท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ทางด้านความสวยงามและความปลอดภัย สำหรับเทคนิคปลูกผมที่ The Skin Clinic ให้บริการ มีดังนี้
– ปลูกผมเทคนิค Long Hair FUE >> Long Hair FUE ถือเป็นเทคนิคปลูกผมที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นการปลูกผมแบบไร้รอยแผล ไม่ต้องตัดผมสั้น และไม่ต้องโกนศีรษะแบบเทคนิคเก่า ๆ คนไข้สามารถปลูกผมได้ทั้ง ๆ ที่เป็นเส้นยาว เรียกอีกอย่างว่าการปลูกผมเทคนิค Celebrity Hair Transplant โดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปลูกผม ใช้เครื่องมือหัวเจาะชนิดพิเศษ เพื่อทำการเจาะรูแล้วดึงรากผมและเซลล์ผมออกมาให้ยาวเป็นเส้น จากนั้นคัดเลือกเซลล์ผมที่แข็งแรง เพื่อนำกลับไปปักลงตรงหนังศีรษะที่มีปัญหา เทคนิคนี้ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน เส้นผมเรียงตัวสวยเป็นธรรมชาติ ใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีโดยที่ไม่มีใครสังเกตได้ว่าเพิ่งไปปลูกผมมา
– ปลูกผมเทคนิค DHI >> ปลูกผมเทคนิค DHI เป็นการปลูกผมที่แพทย์เลือกใช้เครื่องมือเฉพาะทาง DHI Implanter เพื่อใช้สำหรับการปักและปลูกผมได้ภายในครั้งเดียว โดยเครื่องมือดังกล่าวช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมทิศทาง มุม และความลึกของรากผมได้อย่างแม่นยำ เส้นผมเรียงตัวสวยเป็นธรรมชาติ แผลมีขนาดเล็กประมาณ 0.6 – 0.8 เท่านั้น ไม่มีรอยแผลเป็นหลังการทำ ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ในบางรายสามารถกลับไปทำงานได้ทันที วิธีปลูกผมเทคนิค DHI เหมาะมากสำหรับคนที่มีปัญหาหัวล้านแบบเห็นได้ชัด
– ปลูกผมเทคนิค Advance FUI >> ปลูกผม Advance FUI นับว่าเป็นที่สุดแห่งนวัตกรรมปลูกผมไร้รอยแผลเป็นเลยก็ว่าได้ เพราะเทคนิคดังกล่าวเกิดจากการผสานนวัตกรรมปลูกผมเทคนิค FUE และ DHI ไว้ด้วยกัน กล่าวคือสามารถดำเนินการปลูกผมได้แบบไม่ต้องตัดผม ไม่ต้องโกนผม ควบคู่กับการปลูกผมด้วยปากกาชนิดพิเศษ Direct Hair Implanter หัวเจาะขนาดเล็กมาก เพื่อช่วยให้แพทย์โหลดกราฟผมได้อย่างรวดเร็ว และมีโอกาสที่ผมจะเกิดใหม่สูงมาก หลังปลูกผมเสร็จรับรู้ได้ถึงความหนาของเส้นผมทันที เห็นแนวผมธรรมชาติชัดเจน อีกทั้งแพทย์ยังสามารถออกแบบทิศทาง มุม และความลึกของรากผมได้แม่นยำ ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน สวย ไม่โป๊ะ
นอกจากเทคนิคปลูกผมแล้ว The Skin Clinic ยังมีเซ็ตผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้บริการ เพื่อช่วยคืนความสวยสุขภาพดีให้เส้นผมที่คุณรัก หากสนใจเข้ารับการปลูกผม สามารถสอบถามข้อมูลและทุกข้อสงสัยได้ผ่านทาง LINE ทางคลินิกพร้อมตอบคำถามโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
READ MORE>>>
