ย้อมสีผมแล้วมีปัญหาผมร่วง ผมบางหนักมาก ทำอย่างไรดี
ทำสีผมหรือย้อมผมเป็นการทำผมที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ เพราะสร้างสีสันให้กับเส้นผมและเปลี่ยนลุคเดิม ๆ ได้ รวมถึงในผู้สูงอายุยังมีการย้อมผมเพื่อปกปิดผมขาว แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการทำสีผมอาจก่อเกิดปัญหาผมร่วงได้ เมื่อผมร่วงเยอะก็ทำให้รู้สึกวิตกกังวลและหมดความมั่นใจ หลายคนใช้แชมพูลดผมร่วงแต่กลับไม่ได้ผลดังนั้นการปลูกผมจึงเป็นวิธีที่น่าสนใจ เพื่อช่วยแก้ปัญหาและทำให้ผมหนาขึ้นตามธรรมชาติดังเดิม โดยก่อนอื่นไปรู้จักถึงสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงหลังย้อมสีเพื่อรักษาอาการได้ตรงจุดและควรปลูกผมเทคนิคใด
สาเหตุที่ทำให้ผมร่วงเยอะหลังทำสีผม
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านคือการทำสีผม เนื่องจากเมื่อเส้นผมและหนังศีรษะสัมผัสยาย้อมผมหรือโฟมย้อมผม จะทำให้โครงสร้างเส้นผมและหนังศีรษะถูกทำร้ายจากสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบ เช่น
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) เป็นสารที่ทำให้สีผมเดิมอ่อนลงแต่ทำให้ผมแห้งเสีย
- พาราโทลูอีนไดอะมีน (PTD; Para-Toluenediamine) เป็นสารที่ช่วยเปลี่ยนสีผมให้ตรงตามสีย้อมผม แต่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ
- พาราฟีนิลีนไดอะมีน (PPD; Para-Phenylenediamine) เป็นสารทำให้เกิดสีซึ่งมักพบในสีย้อมผมชนิดถาวร โดยมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการแพ้และเสี่ยงเป็นมะเร็งได้
- แอมโมเนีย (Ammonia) เป็นสารที่ช่วยให้สีย้อมติดเส้นผมดีขึ้นแต่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง
วิธีทดสอบและสังเกตอาการแพ้ยาย้อมสีผม
ยาย้อมสีผมหรือโฟมย้อมผมมีส่วนประกอบของสารเคมีหลายชนิด ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในผู้ที่มีอาการแพ้ ดังนั้นก่อนใช้จึงควรทดสอบอาการแพ้ล่วงหน้า 48 ชั่วโมง โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เตรียมผสมยาย้อมผมสำหรับการทดสอบตามสัดส่วนปริมาณที่กำหนด
- ทายาย้อมผมบริเวณท้องแขนขนาดปริมาณเท่าเหรียญบาทแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง
- ทิ้งไว้ 48 ชั่วโมงโดยไม่สัมผัสบริเวณที่ทายาย้อมผมไว้ โดยให้สังเกตอาการผิดปกติหลังทาทิ้งไว้ 30 นาที และหลังจาก 48 ชั่วโมง หากมีอาการระคายเคืองให้ใช้นิ้วถูและล้างน้ำออกทันที หากไม่มีอาการแพ้ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้
สำหรับอาการแพ้ยาย้อมผมที่ควรสังเกตมีดังนี้
อาการแพ้ที่ไม่รุนแรง : ระคายเคืองบริเวณหนังศีรษะ ผิวหนังบวมแดง มีอาการคัน และมีผื่นแดงเพียงเล็กน้อย
อาการแพ้ที่รุนแรง : คันผิวหนังหรือมีผื่น มีอาการบวมบริเวณดวงตา ริมฝีปาก มือ และเท้า ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก และหมดสติ
ปลูกผม 5 เทคนิคช่วยรักษาผมร่วงที่ได้ผลจริง
การดูแลป้องกันผมร่วงหลังทำสีคนส่วนใหญ่มักใช้แชมพูลดผมร่วงหรือแชมพูสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ แต่ยาย้อมผมที่มีส่วนประกอบของสารเคมีต่าง ๆ อาจทำให้ใช้เพียงแค่แชมพูไม่ได้ผล ดังนั้นการปลูกผมจึงถือเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง อย่างเห็นผลจริง ทำให้ผมกลับมาหนาเป็นธรรมชาติดังเดิมแม้ผมร่วงเยอะหลังทำสี โดยขอแนะนำการปลูกผม 5 เทคนิคที่ The Skin Clinic คลินิกเสริมความงามที่มีชื่อเสียงด้านการปลูกผม ดังนี้
1. ปลูกผมเทคนิค Advanced FUI
ปลูกผมเทคนิค Advanced FUI ราคาเริ่มต้น 50,000 บาท เป็นนวัตกรรมการปลูกผมที่ผสมผสานระหว่างเทคนิค FUE และ DHI โดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางชื่อว่า DHI Implanter (Direct Hair Implanter) ที่มีหัวเจาะขนาดเล็ก ช่วยให้รากผมยังคงมีความแข็งแรงสมบูรณ์ มีโอกาสสูงที่เส้นผมจะขึ้นได้ดี สามารถปลูกตามแนวผมเดิมทำให้เส้นผมขึ้นเป็นธรรมชาติ แผลมีขนาดเล็กมาก หายเร็ว และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
2. ปลูกผมเทคนิค Long Hair FUI
นวัตกรรมการปลูกผมไร้รอยแผลเย็บเทคนิค Long Hair FUI ไม่ต้องตัดผมสั้น ไม่ต้องโกนผม มองไม่เห็นแผล และสามารถเห็นแนวผมหลังทำได้ทันที เป็นการใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาดเล็กมากทำการเจาะรูแล้วดึงทั้งเส้นผมและรากผมออกมา นำมาคัดแยกกราฟผมและปลูกบริเวณที่ต้องการรวมถึงสร้างแนวผมใหม่ โดยเรียงทิศทางและความโค้งของเส้นผมให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด
3. ปลูกผมเทคนิค DHI
การปลูกผมเทคนิค DHI (Direct Hair Implantation) ราคาเริ่มต้น 80,000 บาท เป็นการปลูกผมเทคนิค FUE ด้วยเครื่องมือหัวเจาะพิเศษ DHI Implanter ที่มีขนาดเล็กมากเพียง 0.6-0.8 มิลลิเมตร เพื่อทำการเจาะกราฟผมออกมาโดยมีแผลเล็กมาก สามารถปักและปลูกได้ภายในครั้งเดียว ทำให้ไม่มีแผลเป็น ไม่ต้องผ่าตัด และเส้นผมที่ปลูกใหม่มีความเป็นธรรมชาติตามเส้นผมเดิม
4. กระตุ้นรากผมด้วยเซลล์ไขมันตัวเอง ALMI Nano Fat
รักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านด้วยเทคนิค ALMI Nano Fat การกระตุ้นรากผมด้วยเซลล์ไขมันตัวเอง ราคาเริ่มต้น 25,000 บาท เป็นการดูดไขมันจากสะโพกหรือต้นขาของคนไข้มาผ่านกระบวนการสกัดและคัดแยก เพื่อให้ได้เซลล์ไขมันโมเลกุลเล็กที่บริสุทธิ์ มีคุณภาพดี และแข็งแรงสมบูรณ์ แล้วนำมาฉีดกระตุ้นรากผมที่ศีรษะให้ซ่อมแซมฟื้นฟูและเจริญเติบโต ทำให้จำนวนเส้นผมเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น ผมกลับมาหนาเป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัยสูง เสี่ยงเกิดอาการแพ้น้อย เนื่องจากใช้เซลล์ไขมันตัวเอง
5. ปลูกผมด้วยการฉีดสเต็มเซลล์ RIGENERA Micrograft Hair
อีกหนึ่งวิธีรักษาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นการปลูกผมด้วยการฉีดสเต็มเซลล์ RIGENERA Micrograft Hair ราคาเริ่มต้น 50,000 บาท โดยนำเนื้อเยื่อบริเวณหนังศีรษะด้านหลังมาสกัดและคัดแยกผ่านเครื่อง RIGENERA ที่นำเข้าจากประเทศอิตาลี เพื่อให้ได้รากผมที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้วฉีดกลับไปยังศีรษะ โดยรากผมที่ฉีดเข้าไปจะช่วยปกป้องรากผมอื่น ๆ ไม่ให้หลุดร่วงจากฮอร์โมน DHT และกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโตทำให้เส้นผมเกิดใหม่จำนวนมาก
สำหรับผู้ที่สนใจปลูกผมที่ The Skin Clinic สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาหมอฟรีผ่านทาง LINE โปรโมชั่นพิเศษจองวันนี้แถมฟรี Set ยากินยาทาตลอด 6 เดือน ดูแลหลังทำให้นาน 1 ปี มีรับประกันผลลัพธ์หลังทำ และสามารถผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
READ MORE>>>
