ดูดไขมันทั้งตัวแก้ปัญหารูปร่าง เสริมสร้างบุคลิกภาพ
การดูดไขมัน ถือเป็นศัลยกรรมประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย นับว่าเป็นทางลัดในการลดสัดส่วนรูปแบบหนึ่งที่มีความปลอดภัยและเห็นผลชัดเจนมากหลังทำ โดยใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อยาวใส่เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมาจากบริเวณต่าง ๆ อาทิ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน คอ ก้น เป็นต้น การดูดไขมันต้องทำร่วมกันกับการผ่าตัดจำเป็นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดและดูดไขมันเฉพาะทาง
ถึงแม้การดูดไขมันจะเป็นวิธีกำจัดไขมันที่รวดเร็วช่วยแก้ปัญหารูปร่างให้เข้าที่ เสริมสร้างบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว แต่ทราบหรือไม่? ว่าการดูดไขมันไม่สามารถดูดได้ทุกส่วนของร่างกายและไขมันบางส่วนก็ไม่สามารถลดลงได้เช่นกัน ดังนั้นควรปรึกษาศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางอย่างใกล้ชิด เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสม โดยเฉพาะการดูดไขมันทั้งตัว เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนและได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการโดยมีรายละเอียดดังนี้

บริเวณไขมันสะสมในร่างกาย
โดยทั่วไปร่างกายคนเราจะมีไขมันสะสมอยู่ตามจุดต่าง ๆ อาทิ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน คอ ก้น เป็นต้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
- ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
- ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
- ไขมันที่แทรกตามกล้ามเนื้อ
- ไขมันในหลอดเลือด
ไขมันบริเวณหน้าท้องแบ่งออก 2 แบบ คือ ไขมันใต้ชั้นผิวหนังและไขมันในช่องท้อง ซึ่งไขมันในส่วนนี้มักพบเห็นในคนอ้วนที่มีน้ำหนักตัวมากและส่งผลต่อความสวยงามของรูปร่างเป็นหลัก มีไขมันส่วนเกินยื่นออกมาโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง แต่ไขมันทั้ง 2 นี้ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อสุขภาพ ซึ่งไขมันใต้ชั้นผิวหนัง สามารถดูดไขมันออกได้ไม่ส่งผลต่อสุขภาพและไม่ทำให้เกิดโรค ส่วนไขมันในช่องท้องไม่สามารถดูดออกได้และยังส่งผลต่อสุขภาพทำให้เกิดโรคต่าง ๆ หากต้องการลดไขมันในส่วนนี้ ควรออกกำลังกาย รวมถึงปรับพฤติกรรมการกินหรือสร้างการเผาผลาญจากภายใน
การดูดไขมันเหมาะกับใคร
- ผู้ที่ไม่ได้อ้วนทั้งตัว
- ผู้ที่ไม่ได้มีน้ำหนักเกินปกติมาก
- ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะที่ ลดลงไม่ได้ด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
- ผู้ที่มีผิวหนังยืดหยุ่นดี หลังจากดูดไขมันผิวจะเรียบ
ความเสี่ยงที่อาจพบจากการดูดไขมัน
- ผิวไม่เรียบเนียนมีลักษณะคล้ายคลื่นหรือแตกลาย
- มีการบวมและช้ำนาน 6 เดือน
- บริเวณแผลผ่าตัดชา เจ็บเล็กน้อย
- ภาวะแทรกซ้อนจากการนำไขมันออกปริมาณมากเกินไป
- แผลผ่าตัดติดเชื้อหรือมีภาวะเลือดออกที่แผลผ่าตัด
- มีการสะสมของของเหลว เป็นถุงใต้ผิวหนัง

ผ่าตัดดูดไขมัน
การผ่าตัดดูดไขมันศัลยแพทย์จะทำเครื่องหมายบนร่างกายในตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมันออก หลังจากนั้นทำการเจาะรอยเล็กบริเวณผิวหนังขนาดประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร ใส่ท่อเรียวยาวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 – 5 มิลลิเมตรที่จะดูดไขมันเข้าไป โดยต่อกับเครื่องปั๊มสุญญากาศหรือเครื่องอัลตราซาวนด์ และทำการดูดไขมันออก โดยปริมาณไขมันที่ออกมามากน้อยขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณไขมันที่สะสม
เครื่องมือดูดไขมัน
การดูดไขมันทางการแพทย์ใช้เครื่องมือ 2 แบบ คือ เครื่อง VASER ใช้ Ultrasonic Energy สลายไขมัน และเครื่อง Body Tite ใช้ Radio Wave Energy เพื่อสลายไขมันแล้วดูดไขมัน โดยเครื่องดูดไขมันทั้ง 2 แบบ ไม่เป็นอันตรายต่อเส้นเลือดหรือเส้นประสาท โดยศัลยแพทย์จะวางแผนและเลือกรูปแบบการรักษาที่เหมาะสม
ดูดไขมันพักฟื้นกี่วัน
โดยส่วนใหญ่ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันสามารถกลับมาทำงานได้ภายในไม่กี่วันหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ทั้งนั้น ระยะเวลาของแต่ละบุคคลจะมีความแตกต่างกันออกไป
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
- แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างละเอียด อาทิ ปัญหาสุขภาพ โรคร้ายแรง โรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัดและการได้ยาระงับความรู้สึก การแพ้ยา แพ้อาหาร เป็นต้น
- ในกรณีมีภาวะเสี่ยงหรือมีโรคประจำตัวจะมีการเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการผ่าตัดและวางยาสลบ อาทิ การเอกซเรย์ การตรวจเลือด การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น
- ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน ควรงดใช้ยา ยาบำรุง และสมุนไพรบางชนิดที่อาจมีผลกับการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัดประมาณ 6 สัปดาห์
- อาบน้ำชำระร่างกายและสระผมให้สะอาด
- ห้ามทาเล็บ
- เตรียมเสื้อหลวมเพื่อให้สวมสะดวกในวันผ่าตัดและไม่ถูกแผลขณะถอดเปลี่ยนเสื้อผ้า
- ผู้หญิงหลีกเลี่ยงช่วงมีประจำเดือน
การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมัน
- หลังผ่าตัด 24 – 48 ชั่วโมง บริเวณแผลจะรู้สึกปวดแสบร้อน บวม และมีรอยเขียวช้ำ
- หลังผ่าตัด 3 วัน หากแผลแห้งดีไม่มีอาการปวด บวม แดง สามารถอาบน้ำได้
- ครบ 1 สัปดาห์ แพทย์นัดตัดไหม ห้ามทายาป้องกันการเกิดแผลเป็นนูน
- ประมาณ 1 เดือน ใช้ผ้ายืดพันรัดหรือชุดรัดรูป เพื่อการกระชับในบริเวณที่ทำการรักษา
- ควรรับประทานยาบรรเทาอาการปวดและประคบเย็นหลังผ่าตัด
- หลังการรักษา 1 เดือน งดออกกำลังกาย
- แผลหายเป็นปกติ ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เกร็ดความรู้ : การดูดไขมันส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ได้การันตีไขมันจะหมดไปอย่างถาวร อย่างเช่น หากคุณมีไขมันอยู่ 100% หลังดูดไขมันออกไป 60% ของไขมันทั้งหมด หลังจากนั้นไขมันสามารถกลับมาใหม่ได้ หากคุณไม่ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย แต่ไขมันอาจจะกลับมาไม่ถึง 100% เพียง 80% เท่านั้น
ดูดไขมันทั้งตัว ราคาเท่าไหร่?
ราคาการดูดไขมันของแต่ละบุคคลอาจบอกราคาที่แน่ชัดไม่ได้ เนื่องจากไขมันของแต่ละคนแตกต่างกันบางคนอาจต้องดูดไขมันเพียง 3 – 4 จุดเท่านั้นหรือบางคนต้องดูดไขมัน 5 จุดขึ้นไป รวมถึงการกลับมาดูดไขมันซ้ำ ราคาจึงมีความแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับจำนวนตำแหน่งดูดไขมัน ปริมาณไขมัน เครื่องดูดไขมันและวิธีระงับความเจ็บปวด เป็นต้น
แนะนำดูดไขมัน ที่ The Skin Clinic
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาไขมันส่วนเกินในร่างสะสมเป็นจำนวนมาก ต้องการให้รูปร่างตัวเองฟิตกระชับสมส่วน แต่ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากพักฟื้นนาน แผลหายไว แนะนำ The Skin Clinic โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการดูดไขมันกระชับสัดส่วน ด้วยเครื่อง Quadrostar (Laser lipolysis) โดยไม่ต้องพักฟื้น กระชับผิวในบริเวณที่ทำการรักษามากกว่าเมื่อเทียบกับการดูดไขมันแบบปกติ รับประกันความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีคุณภาพจากประเทศเยอรมันที่องค์กรอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริการับรองแล้วว่ามีความปลอดภัยสูง หลังทำขนาดแผลเล็กมาก สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ณ ตอนนี้มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ดูดไขมัน เริ่มต้นเพียงจุดละ 12,500 บาท

READ MORE>>>