ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน 7 วัน เห็นผล ไม่ต้องอดอาหาร
การลดน้ำหนักของ “คนอ้วน” และ “คนผอม” ไม่ต่างกันมากนัก โดยมีหลักการเดียวกันนั่นคือ การรับพลังงานเข้ามาจากการกินให้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้ออกไปในแต่ละวัน สิ่งที่ต่างกันออกไปจะเป็นจุดประสงค์ในการลดน้ำหนัก อาทิ บางคนต้องการลดไขมันหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก เป็นต้น บางคนต้องการควบคุมน้ำหนัก เพื่อให้รูปร่างคงที่ รวมถึงการลดน้ำหนักเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ลดปัญหาการเกิดโรคอ้วนในอนาคต
การลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหาร เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุด ใช้เวลาเห็นผลค่อนข้างนาน ส่งผลให้ผู้ลดน้ำหนักบางรายยอมอดอาหาร เพื่อให้น้ำหนักลดลงภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ทราบหรือไม่ว่าการอดอาหารในการลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่ไม่ควร นอกจากจะไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนักลดลงอย่างที่คิด แล้ว ยังส่งผลไม่ดีแต่สุขภาพ เพราะฉะนั้นควรลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีที่สุด โดยมีรายละเอียดดังนี้

ประโยชน์ของการลดน้ำหนัก
- สุขภาพหัวใจแข็งแรงหากลดน้ำหนักลง 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว ปริมาณคลอเรสเตอรอลในเลือดลดลง ช่วยเสริมสร้างให้หัวใจแข็งแรง เลือดสูบฉีดดี
- ลดอาการของผู้ป่วยโรคอ้วน
- คุณภาพชีวิตและความมั่นใจดีขึ้น ช่วยให้คุณมีความเชื่อมั่นในตัวเอง
- สุขภาพในระยะยาวดีขึ้นลดปัญหาการเกิดโรคต่าง ๆ เกี่ยวกับไขมันอุดตัน
- การลดน้ำหนักทำให้ระดับน้ำตาลลดลง
- กรณีออกกำลังกายลดน้ำหนักช่วยลดโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม
การลดน้ำหนักที่ถูกวิธีและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพไม่จำเป็นต้องอดอาหาร ผู้ที่ลดน้ำหนักยังคงทานอาหารได้ปกติ เพียงแค่ลดปริมาณและคำนวนแคลลอรี่อาหารแต่ละมื้อเท่านั้น ที่สำคัญต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย ถึงจะช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย โดยมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้
เปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเช้า
อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด แต่ก็ใช่ว่าจะรับประทานอะไรก็ได้ตามใจปาก หากต้องการลดน้ำหนักจริง แนะนำว่าให้กินธัญพืช 1 ถ้วยคู่กับนมอัลมอนด์ หรือโยเกิร์ตกับผลไม้ช่วยให้ย่อยง่าย
มื้อกลางวันเน้นอาหารโปรตีนสูง
มื้อกลางวันควรรับประทานอาหารที่แคลอรี่ต่ำให้โปรตีนสูง อาทิ อกไก่ อาจกินคู่กับแตงกวาและมะเขือเทศ หรือจะเพิ่มไข่ต้ม 2 ฟอง เนื่องจากอกไก่เป็นอาหารที่ไขมันน้อย แคลอรี่ต่ำ และช่วยให้ย่อยง่ายอีกด้วย
ทานของว่าง 2 มื้อต่อวัน
การทานของว่างระหว่างวันช่วยให้ระบบย่อยอาหารได้ทำงานอย่างเต็ม แนะนำของว่างที่ไม่หนักท้องจนเกินไป อาทิ ผลไม้ ธัญพืชอบกรอบ อัลมอนด์ เป็นต้น โดยจะช่วยให้อยู่ท้องและงดการทานของหวานที่มีน้ำตาลสูง
อาหารเย็นที่มีแคลอรี่ต่ำ
อาหารเย็นเป็นมื้อที่มาพร้อมความอ้วน เพราะฉะนั้นควรเลือกกินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ โดยปริมาณแคลอรี่ของอาหารมื้อเย็นควรน้อยที่สุดรองจากมื้อเช้าและมื้อกลางวัน โดยมีหลักการคิดง่าย ๆ คือ มื้อเช้าควรจะได้รับพลังงานประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 700 กิโลแคลอรี่) มื้อเที่ยง 35 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 600 กิโลแคลอรี่) และมื้อเย็น 25 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 500 หรือ 400 กิโลแคลอรี่) ที่สำคัญควรกินมื้อเย็นก่อนเข้านอน 4 – 6 ชั่วโมง
ลดโซเดียม
เกลือ น้ำปลา หรือเครื่องปรุงที่ทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้นมีผลทำให้ตัวบวมได้ง่าย ๆ เพราะฉะนั้นควรทานอาหารที่งดการปรุงด้วยส่วนผมที่มีโซเดียม
ลดน้ำตาล
เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล อย่างเช่น ชานมไข่มุก น้ำอัดลม กาแฟ ชา หรือแม้กระทั่งสารแทนความหวานต่าง ๆ ควรงดเด็ดขาด เนื่องจากน้ำตาลคือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งและเป็นสาเหตุของความอ้วน
ฝึกโยคะเป็นประจำทุกวัน
โยคะช่วยกระชับกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาทิ หน้าท้อง ต้นขา หรือแขน อีกทั้งบางท่ายังสามารถช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ให้คุณถ่ายง่ายทุก ๆ เช้า ขับของเสียออกจากร่างกาย

IF (Intermittent Fasting)
การทำ Fasting ลดน้ำหนัก ควรทำควบคู่กับการออกกำลังกายและการคุมอาหาร โดยการทำ Fasting มีการกินอาหาร 3 – 4 ชั่วโมง และหลังจากนั้นจะมีการพัก 12 ชั่วโมง โดยน้ำหนักตัวจะลดลงราว ๆ 2 กิโลกรัม หรือมากกว่านั้น
Cardio Exercise วันละ 20 นาที
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนลู่วิ่ง หรือวิ่งบนถนน ควรทำอย่างน้อยวันละ 20 นาที โดยการวิ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดมีการสูบฉีด ร่างกายเกิดการเผาผลาญ และยังลดการสะสมไขมันในส่วนอื่นได้เป็นอย่างดี
ดื่มน้ำมะนาวทุกเช้า
การดื่มน้ำมะนาวทุกเช้าทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการดื่มน้ำอุ่นและใส่มะนาวฝานลงไปช่วยดีท็อกซ์และเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง
การนอนหลับช่วยลดความอ้วนได้เช่นกัน เพราะการอดนอนจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้อ้วนขึ้นได้ แนะนำควรนอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวันจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและควบคุมการสะสมไขมัน

นอกจากวิธีการลดน้ำหนักตามที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ปัจจุบันยังมีวิธีการลดน้ำหนักที่ช่วยให้เห็นผลเร็ว และไม่ต้องอดอาหาร นั่นคือ “ลดน้ำหนักแบบรวดเร็ว โดยแพทย์” ผู้ทำจะต้องเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งวิธีที่แพทย์แนะนำ อาทิ สลายไขมันด้วยความเย็น เมโสลดสัดส่วน INDIBA ลดไขมันระดับเซลล์ เป็นต้น และที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ณ ตอนนี้ คือ “ปากกาลดน้ำหนัก (Diet Pen) หรือที่เรียกว่า ปากกาอิ่มทิพย์ Beauty Meal” สามารถลดได้ 5 กิโลกรัม เดือนแรก ในประเทศไทยมียี่ห้อเดียวที่ได้รับอนุมัติจาก อย. ก็คือ ปากกา Saxenda ที่มี Liraglutide มีผลทำให้ไม่รู้สึกหิว หรือกินอาหารแล้วทำให้รู้สึกอิ่มนาน สำหรับการใช้ปากกาลดน้ำหนัก สามารถใช้เองได้ที่บ้านตามคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงจำเป็นจะต้องมีแพทย์ควบคุมดูแลผ่านการทำ Telemed ถือเป็นวิธีที่ลดน้ำหนัก เร่งด่วนโดยที่ใช้พลังในการออกกำลังกายน้อยที่สุด แนะนำ ปากกาลดน้ำหนัก (Diet Pen) ที่ The Skin Clinic ณ ตอนนี้ มีโปรโมชั่นราคาดีที่สุด 3,999 บาท จากราคาปกติ 6,999 บาท
READ MORE>>>