รักษารอยแตกลายสีแดง เพิ่มความมั่นใจเต็มสิบ
แม้ว่ารอยแตกลายตามร่างกายไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือสะโพกจะเป็นเรื่องธรรมชาติที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่มันกลับทำให้หลายคนโดยเฉพาะผู้หญิงหมดความมั่นใจไม่กล้านุ่งกางเกงขาสั้น เสื้อเอวลอย เสื้อสายเดี่ยว หรือบิกินี่ตัวโปรด เพราะกลัวว่าจะโดนล้อและดูไม่น่ามองเท่าสาว ๆ ที่มีผิวเรียบเนียน
หนึ่งประเภทของรอยแตกลายที่พบได้บ่อยคือรอยแตกลายสีแดง ปัญหากวนใจที่ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เห็นเป็นเส้นสีแดงชัดเจน จนทำให้คนที่กำลังเผชิญหน้าตั้งคำถามว่าจริง ๆ แล้วรอยแตกลายสีแดงรักษาให้หายได้ไหม? และรอยแตกลายเหล่านี้เกิดจากอะไรกันแน่ เพื่อไขข้อสงสัยให้กับทุกคน วันนี้ The Skin Clinic มีความรู้เรื่องรอยแตกลายมาบอกต่อ พร้อมแนะนำวิธีรักษารอยแตกลายสีแดงแบบได้ผลจริง

รอยแตกลายสีแดงเกิดจากอะไร? ใครมีความเสี่ยง
รอยแตกลายหรือผิวแตกลาย (Stretch Mark) เป็นปัญหาที่เกิดจากเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นในสุดถูกยืดออกหรือหดตัวลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้โครงสร้างคอลลาเจนในผิวถูกทำลายและเกิดการฉีกขาด เมื่อผิวหนังมีคอลลาเจนไม่เพียงพอจึงมีปัญหาเรื่องรอยแตกลายเกิดขึ้น สำหรับคนที่มีความเสี่ยงต่อรอยแตกลายไม่ได้มีแค่กลุ่มคนอ้วนหรือน้ำหนักเกินเกณฑ์เท่านั้น แต่ภาวะตั้งครรภ์ ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ การเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือคนที่น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งตำแหน่งที่พบรอยแตกลายมากที่สุด ได้แก่ หน้าท้อง หน้าอก รอบสะดือ ต้นแขน ต้นขา สะโพก รักแร้ และน่อง โดยอาการของผิวแตกลายถูกแบ่งออกเป็น 2 ระยะใหญ่ ๆ ดังนี้
รอยแตกลายสีแดง (Striae Rubra)
รอยแตกลายสีแดงเกิดจากการยืดขยายของผิวหนังที่รวดเร็วเกินไป รอยแตกลายสีแดงจะมีหลอดเลือดอยู่ใต้ผิวหนังทำให้รอยแตกกลายเป็นสีแดง สีชมพู หรือสีม่วง (ขึ้นอยู่กับสภาพผิว) ส่วนใหญ่แล้วรอยแตกลายสีแดงมีโอกาสเกิดขึ้นกับคนท้องมากถึง 50 – 90% เนื่องจากขณะตั้งครรภ์หน้าท้องจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้รอยแตกลายสีแดงเป็นรอยแตกลายใหม่ที่ง่ายต่อการรักษา
รอยแตกลายสีขาว (Striae Alba)
เป็นรอยแตกลายที่เกิดขึ้นมาจากรอยแตกลายสีแดงที่ได้ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี จนทำให้รอยแดงค่อย ๆ จางหายไปจนเปลี่ยนเป็นสีขาวที่ฝังลึกมากกว่าเดิม ซึ่งรอยแตกลายประเภทนี้จะรักษาให้หายไปจากผิวได้ยากกว่ารอยแตกลายแดง

รักษารอยแตกลายสีแดงง่าย ๆ ด้วยวิธีธรรมชาติ
– สครับผิว 1 – 2 ครั้ง/สัปดาห์
การสครับหรือขัดผิวเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกและแทนที่ด้วยเซลล์ผิวใหม่ ที่สำคัญการสครับผิวยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณดังกล่าว และช่วยให้รอยแตกลายดูจางลงอีกด้วย แนะนำให้สครับผิวสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง หากเยอะเกินไปอาจทำให้ผิวบางและเกิดอาการแพ้ได้
– ให้ความชุ่มชื้นกับผิว
หมั่นทาครีมบำรุง ครีมลดรอยแตกลาย หรือใช้ว่านหางจระเข้เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นมากที่สุด วิธีนี้นอกจากจะช่วยซ่อมแซมผิวและไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านแล้ว ยังช่วยเร่งกระบวนการรักษาผิวตามธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพภาพมากขึ้นด้วย
– ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
การที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะทำให้ผิวหนังเกิดการขยายตัวและแตกลายได้ ดังนั้นต้องควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารแคลอรี่สูง ควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อรักษาน้ำหนักให้คงที่อยู่เสมอ
– หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารสเตียรอยด์
หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสเตียรอยด์เป็นเวลานาน จะทำให้ผิวบางลง เส้นเลือดที่ผิวหนังแตกได้ง่ายขึ้น ทำให้มีรอยแตกลายสีแดงหรือสีม่วง ผิวหนังอักเสบ และผื่นแดง
– ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม
ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 – 12 แก้ว เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังและทำให้ผิวเกิดการยืดหยุ่นมากขึ้น
สรุปแล้ว! คำถามที่ว่ารอยแตกลายสีแดงรักษาหายได้ไหม? คำตอบคือ ‘ได้’ หากหมั่นดูแลผิวอย่างถูกวิธี ให้ความชุ่มชื้นกับผิว รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ใช้ครีมลดรอยแตกลายตั้งแต่เนิ่น ๆ และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่หากปล่อยให้รอยแตกลายเกิดขึ้นบนผิวนานเกินไป รอยแตกลายอาจเปลี่ยนสีจนกลายเป็นรอยสีขาวที่ยากต่อการรักษาเช่นกัน
รักษารอยแตกลายแบบได้ผล ปลอดภัย ที่ The Skin Clinic
แม้ว่าปัญหารอยแตกลายจะเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อร่างกาย แต่เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้หญิงมากพอสมควร ดังนั้นหากต้องการรักษารอยแตกลายประเภทต่าง ๆ อย่างได้ผลด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัย ขอแนะนำเลเซอร์ลดรอยแตกลายที่ The Skin Clinic ‘Secret FRM’ และ ‘Fractional CO2 Laser’
Secret FRM
Secret Fractional RF Microneedle (FRM) เป็นเทคโนโลยีผสานการทำงานของพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) และ Microneedle Therapy โดยตัวเครื่องจะปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุผ่านหัวเข็มเฉพาะบุคคลที่มีขนาดเล็กมาก ลงที่ชั้นผิวสูงสุดถึง 4 มิลลิเมตร เพื่อเข้าไปทำลายพังผืด พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาและอีลาสติค ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รักษารอยแตกลายบนผิวให้กลับมาเรียบเนียนได้อีกครั้ง ทั้งยังช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่เป็นสะเก็ดหลังการทำ ไม่เสียเวลาพักฟื้น
Fractional CO2 Laser
Fractional CO2 Laser เป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่ช่วยปรับผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ผ่านการรักษาด้วยลำแสงขนาดเล็กมากจนสามารถเข้าสู่เนื้อเยื่อผิวหนังชั้นแท้ (Dermis) โดยแพทย์จะสามารถกำหนดได้ว่าผิวบริเวณต่าง ๆ ต้องได้รับการรักษามากน้อยเพียงใด เพื่อปรับให้มีความเหมาะสมสำหรับผิวทุกประเภทและทุกสีผิว การรักษารอยแตกลายด้วยวิธีนี้คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บและไม่มีภาวะแทรกซ้อนเหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์แบบเดิม ๆ พร้อมกระตุ้นผิวหนังด้านบนให้สร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ให้เรียบเนียน และแข็งแรงเพื่อทดแทนผิวหนังเก่าที่เสียไป
สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องรอยแตกลาย ‘Secret FRM’ และ ‘Fractional CO2 Laser’ เป็น 2 นวัตกรรมทางการแพทย์ดี ๆ ที่เราอยากแนะนำ เพราะช่วยลดรอยแตกลายได้จริง ไม่ทำร้ายผิวหนัง ไม่มีผลข้างเคียง อีกทั้ง The Skin Clinic ยังใช้เครื่องที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และดำเนินการทุกขั้นตอนโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากต้องการลดรอยแตกลายอย่างได้ผล สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทาง LINE ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย (ตอบทุกคำถามโดยทีมแพทย์)
READ MORE>>>