แจกตารางไดเอทลดความอ้วนด้วยการกิน IF มือใหม่ก็ทำได้
ความอ้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบทั้งสุขภาพและจิตใจ โดยด้านสุขภาพอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง ส่วนด้านจิตใจแน่นอนว่าเมื่อมีรูปร่างอ้วนทำให้สูญเสียความมั่นใจในการแต่งตัว ดังนั้นหลายคนจึงพยายามลดความอ้วนด้วยวิธีต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือการลดน้ำหนักด้วยการกิน IF สำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรดีวันนี้เราขอแชร์ตารางลดน้ำหนัก IF ให้ได้ทำตามกัน
การกินแบบ IF คืออะไร
การกินแบบ IF (Intermittent Fasting) คือการอดอาหารเป็นช่วงเวลา เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่แบ่งช่วงเวลาการอดอาหาร (Fasting) และช่วงเวลารับประทานอาหาร (Feeding) เพื่อให้ร่างกายเร่งการเผาผลาญพลังงานและน้ำหนักลดลงโดยไม่ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดตามไปด้วยเหมือนวิธีอดอาหารต่อเนื่อง ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการกินแบบ IF สามารถกำหนดช่วงเวลาการกินและการอดเองได้ แต่ส่วนใหญ่นิยมกินแบบ IF 16/8 คือ ช่วงเวลาภายใน 8 ชั่วโมงให้รับประทานอาหารและช่วงเวลาภายใน 16 ชั่วโมงให้อดอาหาร เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นกินแบบ IF เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบกับการรับประทานอาหารตามปกติมากเกินไป
ตารางลดน้ำหนักด้วยการกินแบบ IF 16/8
ตารางสำหรับคนกิน IF 16/8 เริ่มมื้อเช้า
มื้อแรกของวัน |
เริ่มรับประทานเวลา 08.00 น. |
มื้อที่สองของวัน |
เริ่มรับประทานเวลา 12.00 น. |
มื้อที่สามของวัน |
เริ่มรับประทานเวลา 15.00 น. จนถึง 16.00 น. |
ตารางสำหรับคนกิน IF 16/8 เริ่มมื้อเที่ยง
มื้อแรกของวัน |
เริ่มรับประทานเวลา 12.00 น. |
มื้อที่สองของวัน |
เริ่มรับประทานเวลา 16.00 น. |
มื้อที่สามของวัน |
เริ่มรับประทานเวลา 19.00 น. จนถึง 20.00 น. |
ตารางสำหรับคนกิน IF 16/8 เริ่มมื้อเย็น
มื้อแรกของวัน |
เริ่มรับประทานเวลา 15.00 น. |
มื้อที่สองของวัน |
เริ่มรับประทานเวลา 19.00 น. |
มื้อที่สามของวัน |
เริ่มรับประทานเวลา 22.00 น. จนถึง 23.00 น. |
ลดน้ำหนักแบบกิน IF ควรกินอะไรบ้าง
แม้ว่าการกินแบบ IF จะไม่ได้กำหนดแน่นอนว่าต้องกินอะไรบ้าง เนื่องจากเป็นการกำหนดช่วงเวลาอดและช่วงเวลากิน อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักแบบกิน IF มีคำแนะนำว่าควรกินอาหารประเภทโปรตีนเพิ่มมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเร่งระบบการเผาผลาญของร่างกาย

ดูดไขมันที่ The Skin Clinic ปั้นหุ่นสวยในฝัน
ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักสามารถนำตารางการกินแบบ IF ไปทำตามได้ แต่หากอยากลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนเพื่อสร้างหุ่นสวยในฝัน ขอแนะนำนวัตกรรมดูดไขมันเทคนิค Liposculpture หรือเทคนิคดูดไขมันแบบเหลาเรียว 3 มิติที่ The Skin Clinic เหมาะสำหรับลดสัดส่วน ดูดไขมันหน้าท้อง ขา แขน และบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย มีความแตกต่างกับเทคนิคดูดไขมันธรรมดาคือสามารถซ่อนแผลได้ มีแผลขนาดเล็กเพียง 2.5 มิลลิเมตร ทำให้มองไม่เห็นแผลซึ่งแพทย์จะซ่อนแผลตามจุดที่มองไม่เห็นบนร่างกาย เช่น ขอบ Bikini Line โดยใช้อุปกรณ์ที่มีขนาดยาวพิเศษ Blunt Cannula ทำการเปิดรูแผลและดูดไขมัน พร้อมใช้เครื่อง Electrotherapy และ INDIBA ช่วยสลายไขมัน ลดอาการบวมช้ำ รวมถึงกระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน ให้ผลลัพธ์สัดส่วนลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน แผลน้อย เสียเลือดน้อย และฟื้นตัวเร็ว
โปรโมชั่นดูดไขมันลดสัดส่วนที่ The Skin Clinic ราคาเริ่มต้นจุดละ 12,500 บาท มีรับประกันหลังทำ สัดส่วนไม่ลงดูดซ้ำฟรี
การมีหุ่นสวยสลิมเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน นวัตกรรมดูดไขมันลดสัดส่วนที่ The Skin Clinic จึงตอบโจทย์มากที่สุด ดูแลรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ใช้เครื่องมือทันสมัย ไม่จำกัดซีซีในการดูดไขมัน เพื่อหุ่นสวยอย่างปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
READ MORE>>>