เช็กก่อนกินถ้าไม่อยากอ้วน ทุเรียนแต่ละสายพันธุ์ให้พลังงานเท่าไหร่
ในเดือนเมษายนจนถึงมิถุนายนเป็นช่วงฤดูกาลทุเรียนของเมืองไทย ซึ่งทุเรียนเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจนได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาผลไม้ ด้วยรสชาติหวานมันอร่อยถูกปากที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วงนี้หลายคนคงหาซื้อทุเรียนมากินกันอย่างมีความสุข แต่อย่ากินเพลินจนอาจทำให้น้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพราะทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่สูง ดังนั้นก่อนกินมาเช็กว่าทุเรียนมีกี่แคลอรี่ และควรกินอย่างไรไม่ให้น้ำหนักขึ้น จะได้มีความสุขกับการกินทุเรียนและยังคงมีหุ่นสวยเป๊ะ
ทุเรียนสายพันธุ์ยอดนิยมในไทยมีกี่แคลอรี่
จากข้อมูลของสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้รายละเอียดสารอาหารหลักและปริมาณน้ำตาลของทุเรียนแต่ละสายพันธุ์ยอดนิยมในไทยเอาไว้ว่า หากกินทุเรียนในปริมาณ 100 กรัม จะได้รับแคลอรี่ ดังนี้
สารอาหารและปริมาณน้ำตาล |
สายพันธุ์ทุเรียน |
|||
ทุเรียนก้านยาว |
ทุเรียนหมอนทอง |
ทุเรียนชะนี |
ทุเรียนกระดุม |
|
พลังงาน (กิโลแคลอรี่) |
187 |
162 |
148 |
133 |
โปรตีน (กรัม) |
2.50 |
2.10 |
2.50 |
3.30 |
คาร์โบไฮเดรต (กรัม) |
35.10 |
31.20 |
24.70 |
20.50 |
ไขมัน (กรัม) |
4.10 |
3.30 |
4.40 |
4.30 |
ฟอสฟอรัส (มิลลิกรัม) |
36 |
34 |
35 |
27 |
แคลเซียม (มิลลิกรัม) |
18 |
29 |
8 |
49 |
บีตา-แคโรทีน (ไมโครกรัม) |
134 |
46 |
244 |
366 |
วิตามินซี (ไมโครกรัม) |
34 |
38 |
28 |
– |
น้ำตาล (กรัม) |
12.9 |
21.00 |
7.7 |
11.3 |
จะเห็นได้ว่าทุเรียนที่ให้พลังงานมากที่สุดใน 4 สายพันธุ์ คือ ทุเรียนก้านยาว 187 กิโลแคลอรี่ รองลงมาเป็นทุเรียนหมอนทอง 162 กิโลแคลอรี่ ทุเรียนชะนี 148 กิโลแคลอรี่ และทุเรียนกระดุม 133 กิโลแคลอรี่ตามลำดับ หากรับประทานมากเป็นสาเหตุของความอ้วนได้ อย่างไรก็ตามทุเรียนอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญ ดังนั้นการกินทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากมาย เช่น บำรุงสมอง บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ และกระตุ้นการขับถ่าย
รับประทานทุเรียนอย่างไรไม่ให้น้ำหนักขึ้น
คำแนะนำในการกินทุเรียนโดยที่น้ำหนักไม่เกินเกณฑ์และดีต่อสุขภาพ ควรกินเนื้อทุเรียนปริมาณ 80-100 กรัม หรือเทียบได้กับ 2 เม็ดขนาดกลาง ในวันที่กินทุเรียนให้ลดอาหารจำพวกแป้งและของหวาน รวมถึงไม่ควรกินบ่อยครั้งหรือทุกวัน ทั้งนี้หากกินเนื้อทุเรียน 2-3 พู หรือเทียบได้กับ 4-6 เม็ด จะได้รับพลังงานถึง 520-780 กิโลแคลอรี่ ซึ่งเป็นพลังงานที่เท่ากับอาหารหลัก 2 มื้อ

แม้ว่าทุเรียนถือเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ที่ดีต่อร่างกาย แต่ยังมีข้อควรระวัง คือ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคไต ควรกินเนื้อทุเรียนปริมาณน้อยกว่าคนปกติ เนื่องจากระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดอาจเพิ่มขึ้นสูงได้ นอกจากนี้ไม่ควรกินทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากในทุเรียนมีกรดกำมะถันที่ส่งผลต่อกระบวนการเผาผลาญให้ทำงานน้อยลง ร่างกายไม่สามารถกำจัดของเสียได้ตามปกติ และระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้เกิดอาการหน้าแดง วิงเวียน ตัวชา และอาเจียน จนถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที
มีหุ่นสวยได้ดังฝัน แนะนำดูดไขมันลดสัดส่วนที่ The Skin Clinic
ทุเรียนอร่อยจนหยุดกินไม่ได้ แต่ก็กลัวอ้วนทำอย่างไรดี? เชื่อว่าหลายคนมีความกังวลถึงน้ำหนักตัวที่อาจเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้ไม่ต้องเครียดอีกต่อไป ขอแนะนำบริการดูดไขมันลดสัดส่วนเทคนิคซ่อนแผล Liposculpture ที่ The Skin Clinic ตัวช่วยกระชับรูปร่างปั้นหุ่นสวยได้ดังฝัน เป็นการดูดไขมันที่มีความพิเศษแตกต่างจากการดูดไขมันธรรมดา เพราะมีแผลเล็กเพียง 2.5 มิลลิเมตร และซ่อนแผลตามจุดที่มองไม่เห็นบนร่างกาย เช่น บริเวณขอบ Bikini Line โดยดูดไขมันส่วนเกินด้วยอุปกรณ์ Blunt Cannula ที่มีขนาดยาวพิเศษทำการเปิดรูแผลร่วมกับการใช้คลื่น Electrotherapy และเครื่อง INDIBA เพื่อสลายไขมันให้ดูดง่ายขึ้น กระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อยหรือเป็นคลื่นหลังทำ ลดอาการอักเสบบวมช้ำ และลดโอกาสที่จะเกิดแผลเป็น ซึ่งเทคนิคนี้จะต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น

โปรโมชั่นดูดไขมันลดสัดส่วนเทคนิคซ่อนแผล Liposculpture ที่ The Skin Clinic แกะสลักไขมันเหลาเรียว 3 มิติ ดูดไขมันได้ไม่จำกัด CC และผิวไม่หย่อนคล้อยหลังทำ ราคาเริ่มต้นเพียงจุดละ 12,500 บาท มีรับประกันหลังทำ สัดส่วนไม่ลดลงสามารถดูดซ้ำฟรี

READ MORE>>>