เรื่องน่ารู้ของ Condom ตัวช่วยป้องกันโรคและคุมกำเนิด
เซ็กส์หรือการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติของคนวัยหนุ่มสาว เพื่อความต้องการมีลูกหรือมีความสุขทางเพศ โดยเฉพาะการมีเซ็กส์ของคู่รักถือเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ แต่หากไม่อยากตั้งครรภ์หรือเสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยเป็นวิธีคุมกำเนิดและป้องกันโรคที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีประสิทธิภาพสูง สะดวกต่อการใช้งาน และมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก โดยมีทั้งถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชายและถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง แต่ที่ได้รับความนิยมและหาซื้อง่ายกว่าคือถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย อย่างไรก็ตามหลายคนไม่รู้ว่าถุงยางมีกี่ขนาด ต้องเลือกอย่างไรให้เหมาะกับขนาดน้องชาย ซึ่งทั้งผู้ชายและผู้หญิงควรรู้ไว้ เพื่อประสิทธิภาพป้องกันสูงสุด
ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชายมีกี่ขนาด
ขนาดของถุงยางอนามัยที่ใช้กันทั่วโลกมีทั้งหมด 13 ขนาด แต่ในประเทศไทยถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชายที่หาซื้อง่ายมี 4 ขนาดดังนี้
1. ถุงยางอนามัยขนาด 49 มิลลิเมตร เหมาะกับเส้นรอบวงอวัยวะเพศชายขนาด 11-12 เซนติเมตร หรือประมาณ 5 นิ้ว
2. ถุงยางอนามัยขนาด 52 มิลลิเมตร เหมาะกับเส้นรอบวงอวัยวะเพศชายขนาด 12-13 เซนติเมตร หรือประมาณ 5 นิ้ว
3. ถุงยางอนามัยขนาด 54 มิลลิเมตร เหมาะกับเส้นรอบวงอวัยวะเพศชายขนาด 13-14 เซนติเมตร หรือประมาณ 5 นิ้ว
4. ถุงยางอนามัยขนาด 56 มิลลิเมตร เหมาะกับเส้นรอบวงอวัยวะเพศชายขนาด 14-15 เซนติเมตร หรือประมาณ 6 นิ้วขึ้นไป

วิธีวัดขนาดถุงยางอนามัยให้เหมาะกับน้องชาย
การเลือกขนาดถุงยางอนามัยให้เหมาะสมกับขนาดน้องชายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากใส่ถุงยางอนามัยที่ขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้ถุงยางฉีกขาดหรือหลุดได้ง่าย ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคและคุมกำเนิดลดน้อยลง โดยวิธีวัดขนาดถุงยางอนามัยให้เหมาะกับขนาดน้องชาย สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
-เริ่มจากวัดเส้นรอบวงขณะที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวแล้วเท่านั้น โดยใช้เชือกพัน 1 รอบ จับตรงจุดที่พันรอบครบแล้วนำเชือกมากางออก ใช้ไม้บรรทัดวัดเชือกจะได้ขนาดของเส้นรอบวง
-นำขนาดเส้นรอบวงที่วัดได้มาหารด้วย 2 จะได้ขนาดถุงยางอนามัยเป็นเซนติเมตร ให้แปลงเป็นมิลลิเมตรก็จะได้เท่ากับขนาดของถุงยางอนามัย
ตัวอย่างเช่น วัดเส้นรอบวงอวัยวะเพศชายได้ 10.6 เซนติเมตร หาร 2 เท่ากับ 5.3 เซนติเมตร แปลงเป็นมิลลิเมตรได้ 53 มิลลิเมตร สามารถเลือกใช้ถุงยางอนามัยขนาด 52 หรือ 54 มิลลิเมตร
เพิ่มความมั่นใจให้กับน้องชายด้วยนวัตกรรม BTL Shockwave ที่ The Skin Clinic
นวัตกรรม BTL Shockwave เป็นการรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายหรือโรค ED ได้อย่างตรงจุดและปลอดภัย โดยใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำแบบแรงกระแทกผ่านเนื้อเยื่อในอวัยวะเพศ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพช่วยให้เกิดการสร้างหลอดเลือดขึ้นใหม่ และซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียหาย ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดที่อวัยวะเพศดีขึ้น ได้ผลลัพธ์การแข็งตัวของอวัยวะเพศชายดีขึ้นตามไปด้วย ดูแลการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เพิ่มความสุขในชีวิตรักด้วยเลเซอร์กระชับช่องคลอดที่ The Skin Clinic
เลเซอร์กระชับช่องคลอดเป็นนวัตกรรมดูแลสุขภาพน้องสาวที่ทันสมัย รักษาอาการช่องคลอดหลวม ช่องคลอดแห้ง เพิ่มน้ำหล่อลื่น อาการปัสสาวะเล็ด และปรับสภาพผิวน้องสาวให้กระจ่างใสได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการใช้เครื่อง Fractional CO2 Laser และเครื่อง INDIBA ซึ่งเป็นเครื่องเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด เสริมสร้างอิลาสตินภายในผนังช่องคลอด ทำให้เนื้อเยื่อในช่องคลอดเกิดการหดตัว กระชับ และรัดแน่น โดยทั้งสองเครื่องเลเซอร์มีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน
เครื่อง Fractional CO2 Laser
เครื่อง Fractional CO2 Laser เป็นการยิงลำแสงเลเซอร์ 360 องศาที่มีระบบ Scanner ทำให้เกิดแผลเล็ก ๆ จำนวนมากบริเวณช่องคลอดเพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมฟื้นฟูตัวเอง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ภายในช่องคลอด รวมถึงฟื้นฟูเนื้อเยื่อช่องคลอดให้ฟิตกระชับมากขึ้น ช่วยรักษาอาการช่องคลอดแห้ง อาการปัสสาวะเล็ด และช่องคลอดมีลมออกมา ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำงดมีเพศสัมพันธ์ 1-3 วัน
เครื่อง INDIBA
นวัตกรรมรีแพร์ใหม่ล่าสุดด้วยเครื่อง INDIBA นำเข้าจากสเปน ได้รับรองมาตรฐาน อย.ไทย US&FDA และ CE ในทวีปยุโรป เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่น Electrotherapy กระตุ้นการไหลเวียนเลือด การสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณช่องคลอด เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมฟื้นฟูได้ถึงระดับเซลล์ ทำให้ช่องคลอดฟิตกระชับ รักษาอาการมีลมออกจากช่องคลอด ช่องคลอดแห้ง ปัสสาวะเล็ด และปรับสีผิวบริเวณปีกผีเสื้อให้กระจ่างใส ขณะที่ทำจะรู้สึกอุ่น ๆ เพียงเท่านั้น ไม่เจ็บ ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง หลังทำพร้อมทำกิจกรรมรักได้ทันที
READ MORE>>>