แต่งตัวไปไหนก็รอด ด้วยทริกแต่งตัวง่าย ๆ น่ารู้
ผู้หญิงเวลาจะออกจากบ้านแต่ละครั้งจะต้องมั่นใจว่าเสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะทุกองศา โดยเฉพาะเรื่องของเสื้อผ้าที่ไม่อยากจะใส่ชุดซ้ำบ่อยจนเพื่อนจำได้ การแก้ปัญหาชุดซ้ำจึงเป็นการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าให้สวยเหมือนชุดเก่า แต่หยิบจับเอาชุดที่มีอยู่ในตู้มาเปลี่ยนคู่ จับเข้าด้วยกันจนดูสวยอินเทรนด์ ก่อนจะมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้า ควรพิจารณาเรื่องความเข้ากัน และไอเดียง่าย ๆ ว่าชุดแบบไหนเข้าคู่กับแบบไหนมากกว่ากัน ถึงเวลาแมตช์กันจะได้สวยถูกใจ
หลักในการแมตช์ชุดให้เข้ากัน
การแมตช์ชุดให้เข้ากันเป็นปัญหาคิดไม่ตกของสาว ๆ หลายคนเลย ไม่รู้ว่าใส่ชุดไหนถึงจะเข้ากัน บางทีก็ใช้หลักการง่าย ๆ ด้วยการใช้ชุดโทนสีเดียวกัน หรือแต่งดำทั้งตัวไปเลย ทั้งที่จริงการแมตช์ชุดสนุกกว่านั้น เราไปดูแต่ละขั้นตอนเลยดีกว่า
1 เลือกสีชุดให้เข้ากันก่อน
คู่สีมีความสำคัญมากถึงมากที่สุด ชุดแต่ละชุดที่เลือกมาอาจจะเลือกจากความชอบได้ แต่ถ้าสามารถเลือกชุดที่คู่สีเข้ากันได้จะช่วยให้ชุดดูสวยสบายตาขึ้น การเลือกสีชุดตามหลักการ Harmony Class มีการแบ่งสีชุดได้ดังนี้
– Monochrome
คำว่า “Monochrome” หมายถึงสีที่มีความเป็นเอกภาพ หรือชุดที่คุมโทนนั่นเอง ในที่นี้เป็นได้ทั้งชุดขาว – ดำ และชุดที่มีสีสัน แต่ชุดเหล่านั้นต้องใช้สีเดียวกันหรือโทนเดียวกัน แนะนำให้ไล่เฉดสีสักหน่อยจะดูดีขึ้น เช่น เสื้อสีชมพูอ่อน กระโปรงหรือกางเกงควรใช้ชมพูเข้ม และลิปสติกเป็นชมพูอีกเฉด
– Contrast
สีคอนทราสต์คือสีที่มีความตัดกัน เป็นการเลือกสีที่ทำให้อีกสีโดดเด่นขึ้นมา ง่ายที่สุดคือโทนสีขาว – แดง หรือดำ – แดง แต่สามารถใช้สีคอนทราสต์นี้ในลักษณะสีโทนร้อนเหมือนกัน เฉดใกล้กันแต่คนละสี เช่น เหลือง – ส้มก็ได้เช่นกัน มีทริกคือการแต่งแนวนี้ควรใส่เดรสสีสด แล้วตัดกับกระเป๋าสีสดคนละเฉด และรองเท้าสีใกล้กับเดรส เพื่อความกลมกล่อม
– Soft
สีโทนซอฟต์คือสีที่มีความเจือขาว หรือสีพาสเทล เป็นการแต่งตัวที่ไม่ฉูดฉาดมาก สามารถใช้สีขาวเป็นตัวตั้งต้นได้ เช่น เสื้อสีขาว กางเกงสีม่วงพาสเทล และกระเป๋าสีฟ้าอ่อน เป็นต้น การแต่งแนวนี้แต่งง่าย แต่ควรเสริมความเด่นด้วยเครื่องประดับชิ้นใหญ่ เช่น ต่างหูห่วงโต หรือสร้อยคอที่จี้ใหญ่นิดนึง หรือใส่รองเท้าส้นสูงเพิ่มความเด่น
– Neutral
ความ Neutral คือความเป็นกลาง สีหลักในการแต่งแนวนี้คือสีครีม สีเบจ สีน้ำตาลอ่อน สีเทาอ่อน นินมใส่คู่กับกระโปรงหรือกางเกงสีสุภาพ เพื่อเพิ่มความเด่นให้ชุดแนวนี้ควรเลือกชุดที่มีลวดลายเฉพาะ เช่น ลายฉลุ ลายผ้าพื้นเมือง เป็นต้น
– Neutral + Color
ลุคส์ Neutral เน้นความเป็นธรรมชาติกับโทนสีสุภาพแล้ว บางคนอาจจะเพิ่มความสดใสให้ลุค Neutral ด้วยเสื้อผ้าอีกชิ้นที่มีสีสดใส เป็นอีกสไตล์ที่สวยไม่แพ้แบบอื่น ๆ เลย
2 หลักในการเลือกท่อนบนและท่อนล่าง
หลังจากจับคู่สีชุดได้แล้วก็มาเปิดตู้เสื้อผ้าดูว่าในตู้มีเสื้อแบบไหนบ้าง และมีกางเกงแบบไหนบ้าง เพื่อให้เลือกสไตล์ช่วงบนและช่วงล่างให้แมตช์กัน มีทริกในการแมตช์ชุดง่าย ๆ ดังนี้
– ถ้าโชว์ช่วงบน เช่น เอวลอย เสื้อครอปตัวสั้นมาก ช่วงล่างควรเป็นขายาว หรือปิดเข่า
– เสื้อแขนกุดเหมาะกับการใส่ไว้ในกระโปรงหรือกางเกงมากกว่าปล่อยชาย
– เบลเซอร์เป็นชุดที่ปรับลุคส์ให้ดูแพงได้
– เสื้อโอเวอร์ไซซ์ใส่กับกางเกงและกระโปรงได้หลายแบบ
– ถ้าเสื้อมีลายเด่น ๆ แล้ว กระโปรงไม่ควรมีลาย
– กางเกงที่มีลวดลายมากเหมาะกับเสื้อสีพื้น
3 รองเท้าแบบไหนเข้าที่สุด
ได้เสื้อและกางเกงหรือกระโปรงแล้ว ต่อไปก็มาดูรองเท้ากัน สำหรับรองเท้ามีหลักการในการเลือกง่ายมาก ๆ ดังนี้
– พิจารณาการใช้งาน – ถ้าเดินบ่อยระหว่างวัน หยิบผ้าใบ หรือรองเท้าส้นเตี้ย ถ้าไปงานปาร์ตี้เลือกรองเท้าส้นสูง
– เลือกให้แมตช์กับชุด – ดูสีชุดเลยว่ามาในโทนไหนแล้วลองรองเท้าที่ไปในโทนเดียวกัน
การมิกซ์แอนแมตช์ชุดไม่ยากเลย จริง ๆ แล้วชุดไหนที่ใส่แล้วรู้สึกชอบก็สามารถนำมาแมตช์กันได้ทั้งนั้น เพื่อให้ได้ชุดสวยโดนใจ และไม่ซ้ำใส่ออกงาน
เทคนิคเสริมความมั่นใจในการแต่งตัว
บางคนแมตช์ชุดออกมาแล้วไม่มั่นใจเลย ไม่รู้ว่าชุดเข้ากันหรือเปล่า มีวิธีเสริมความมั่นใจง่าย ๆ ที่สาว ๆ ต้องรู้ ดังนี้
– มั่นใจเข้าสู้ ความมั่นใจนี่แหละกำแพงด่านแรกที่จะทลายความกังวลให้หมดไป เชื่อไว้เลยว่าเราสวย
– ถามเพื่อนเลยว่าชุดนี้เป็นไงบ้าง เชื่อว่าเพื่อนดี ๆ เห็นชุดสวย ๆ ต้องชมแน่นอน
– เลือกชุดกลบจุดด้อย ชูจุดเด่น ใครไม่มั่นใจตรงไหนปิดเลย ส่วนไหนมั่นใจค่อยเปิด
การมิกซ์แอนด์แมตช์ชุดไม่ยากเกินความสามารถสาว ๆ เลย ส่วนใครที่อยากโชว์ผิวสวย ๆ แต่มีรอยแตกลายมาทำให้เสียความมั่นใจ The Skin Clinic มีบริการเลเซอร์ลบรอยแตกลาย ทั้ง Fractional CO2 และเลเซอร์ Secret FRM ที่ช่วยคลายความกังวลเรื่องรอยแตกลายให้สาว ๆ ได้ ปรึกษา The Skin Clinic ได้ฟรีทาง LINE ตอบคำถามโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
READ MORE >>>
