ที่เที่ยวหน้าฝนสำหรับคนรักธรรมชาติ เดินทางง่าย ใกล้กรุงเทพ
ฤดูร้อนกำลังผ่านพ้นไปและกำลังจะถูกแทนที่ด้วยฤดูฝนเย็นฉ่ำชื่นใจ ซึ่งแม้ว่าฤดูฝนจะเป็นฤดูที่หลายคนอยากอยู่เฉย ๆ ไม่อยากออกไปไหน เพราะสายฝนที่โปรยปรายอาจทำให้เปียกโชกจนไม่สบาย แถมฝนที่เฉอะแฉะยังทำให้เสื้อผ้าเปียกจนกลายเป็นกลิ่นตัวและกลิ่นเหม็นอับได้อีกด้วย แต่ถึงอย่างไรมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากออกเดินทางท้าทายสายฝน ด้วยการหาสถานที่เที่ยวหน้าฝนเพื่อพักผ่อนกายใจดูสักครั้ง
ทุกคนรู้หรือไม่ว่าหากต้องการชมความเขียวขจีและได้กลิ่นอายความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ช่วงหน้าฝนนี่แหละที่มีธรรมชาติอันสวยงามรอต้อนรับคุณอยู่ ใครไม่กลัวสายฝนแล้วกำลังมองหาที่เที่ยวหน้าฝนใกล้กรุงเทพ วันนี้เรามีที่เที่ยวหน้าฝนสวย ๆ เดินทางสะดวก บรรยากาศดีมาบอกต่อ รับรองว่าจุดเช็คอินเหล่านี้ช่วยให้คุณและเพื่อนร่วมทริป หรือหวานใจชุ่มฉ่ำหัวใจได้แน่นอน
เที่ยวหน้าฝนใกล้กรุงเทพที่ไหนดี? อากาศเย็นสบาย เดินทางสะดวก
1. บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก จังหวัดกาญจนบุรี
กาญจนบุรีถือเป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพช่วงโควิดที่ได้รับความนิยม เพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน แถมยังมีที่เที่ยวสวย ๆ ให้ได้เลือกเช็คอินเยอะมาก แต่หากมองหาที่เที่ยวหน้าฝนกาญจนบุรีต้องเป็น ‘บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก’ เท่านั้น โดยที่นี่อดีตเคยเป็นเหมืองแร่มาก่อน แต่ปัจจุบันได้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นที่เที่ยวของสายธรรมชาติ ที่มีสายหมอกจาง ๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบให้ได้ชม มีที่พักให้เลือกหลายแบบทั้งโฮมสเตย์ และจุดกางเต็นท์ ใครอยากนอนแบบไหนก็เลือกได้ตามใจชอบ
2. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
สำหรับภูทับเบิกเป็นที่เที่ยวสำหรับการชมทะเลหลอกในฤดูฝนที่ถูกใจนักท่องเที่ยวแบบสุดขีด โดยที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ทำให้นักท่องเที่ยวรับชมวิวทิวทัศน์ได้แบบ 180 องศา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวฤดูฝนที่ต้องมาสัมผัสด้วยตาตัวเองดูสักครั้ง แต่หากเลือกไปช่วงฤดูหนาวก็จะได้อีกบรรยากาศหนึ่ง แต่รับรองว่าเรื่องความสวยงามกินกันไม่ลงจริง ๆ
3. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
สำหรับเขาใหญ่ถือเป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศไทย เป็นจุดศูนย์กลางที่รวมความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเอาไว้เป็นอย่างดี บรรยากาศเย็นสบายเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในแต่ฤดูจะให้ความสวยงามที่ไม่เหมือนกัน แต่หากอยากเห็นความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า ช่วงฤดูฝนนี่แหละเหมาะที่สุดแล้ว
4. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี
หากใครเป็นนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ กิจกรรมแรกที่นึกถึงในช่วงหน้าฝนคงเป็นการล่องแก่ง และสถานที่ล่องแก่งสุดโด่งดังในไทยคงหนีไม่พ้น ‘แก่งหินเพิง’ ที่ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย เดินทางเข้ามาท้าทายความเร้าใจของสายน้ำกันอย่างเนืองแน่น ใครที่รักในความตื่นเต้นต้องไม่พลาด
5. บ้านทุ่งเพล จังหวัดจันทบุรี
หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนความสวยงามของธรรมชาติเอาไว้ โดยผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้จะมีวิถีชีวิตและความเป็นอยู่แบบดั้งเดิม เพื่อคงความสวยงามของเนินเขา ลำธาร และต้นไม้เอาไว้ หากใครได้ลองแวะไปสักครั้งรับรองว่าติดใจจนลืมความวุ่นวายในกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
6. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เป็นสถานที่พักผ่อนกลางน้ำที่เดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะสวยขึ้นแบบคูณ 2 เพราะนอกจากน้ำในเขื่อนจะมีสีเขียวมรกตสวยงามแล้ว ยังมีทะเลหมอกและอากาศที่เย็นสบายเหมาะกับฉายา ‘กุ้ยหลินเมืองไทย’ ใครมองหาที่เที่ยวหน้าฝนโรแมนติกต้องที่นี่เลย
7. อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี
อุทยานแห่งชาติพุเตยมีอากาศเย็นสบาย เพราะได้รับอิทธิพลไอฝนมาจากป่าไม้ที่ปกคลุมเอาไว้ แถมยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนที่หลงใหลในธรรมชาติ รักความเงียบสงบ และต้องการออกผจญภัยในพื้นที่ที่มีแต่ป่ารายล้อม นอกจากนี้ยังมีน้ำตก ป่าเขา และความสวยงามของดวงอาทิตย์ยามเช้าเป็นรางวัลให้ด้วย
8. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี
จุดชมวิวทะเลหมอกที่ได้รับความนิยมมาก เพราะนอกจากจะอยู่ใกล้กรุงเทพแล้ว ยังเป็นที่เที่ยวที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะกว่าจะขึ้นไปถึงยอดเขาได้บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทันทีที่เห็นวิวทิวทัศน์ทั้งไทยและพม่า ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย รับรองว่าคุณต้องลืมความเหนื่อยล้าไว้ข้างหลังแน่นอน
9. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวเป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่อยู่ในลิสต์ของคนรักการเดินป่าในประเทศไทย ที่นี่มีอากาศเย็นสบายแต่ในช่วงหน้าฝนจะพิเศษตรงที่มีสายหมอกต่ำ ๆ ลงมาปกคลุมทั่วผืนป่า ใครที่อยากเดินแหวกม่านหมอกเข้าไปชมความสวยงามของธรรมชาติ ต้องลองไปสักครั้งแล้ว
10. คลองมะเดื่อ จังหวัดนครนายก
แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่หลังป่าเขาใหญ่ คลองมะเดื่อมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติอยู่มาก โดยที่นี่ประกอบไปด้วยคลองทั้งหมด 5 คลอง แต่สถานที่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนและกางเต็นท์ได้จะมี 3 คลอง ส่วนคลองที่เหลือจะเป็นเขตหวงห้ามของอุทยานฯ นั่นเอง
เตรียมน้องสาวให้พร้อมก่อนเดท The Skin Clinic ช่วยได้
หน้าฝนนี้ใครกำลังวางแพลนสวีทหวานกับคนรัก นอกจากจะเตรียมที่เที่ยว ที่พัก และร้านอาหารแล้ว อย่าลืมเตรียม ‘น้องสาว’ ให้พร้อมสำหรับค่ำคืนแสนพิเศษ ระวังอย่าให้น้องสาวมีกลิ่นคาวออกมาทำลายบรรยากาศ ตัดแต่งทรงผมน้องสาวให้สะอาดเรียบร้อย หรือหากใครกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับน้องสาว ทั้งเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาการช่องคลอดหลวม หรือปัญหาใด ๆ ที่ทำให้ไม่มั่นใจ ลองเลือกบริการเพิ่มความมั่นใจให้จุดซ่อนเร้น ‘เลเซอร์กระชับช่องคลอด’ จาก The Skin Clinic เป็นทางออก รับรองว่านอกจากจะมั่นใจขึ้นแล้ว ยังเป็นเทคนิคที่ปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนอีกด้วย
เลเซอร์กระชับช่องคลอด
เริ่มกันที่เลเซอร์กระชับช่องคลอด เป็นบริการที่ทำงานผ่านเครื่อง INDIBA เพื่อส่งคลื่นพลังงานความถี่ที่ปลอดภัย เข้าไปกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอด ช่วยให้ช่องคลอดเกิดการบีบรัด เกร็งแน่น และเคลื่อนตัวได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้เครื่อง INDIBA ยังช่วยในเรื่องของการไหลเวียนโลหิต ลดการอักเสบภายใน ลดอาการเจ็บแสบขณะมีเพศสัมพันธ์ เพิ่มน้ำหล่อลื่นในช่องคลอด และยังช่วยอาการปัสสาวะเล็ดผู้หญิงที่เกิดมาจากวัยทองได้อีกด้วย นวัตกรรมนี้ไม่ใช่การผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาทำเพียงแค่ 30 นาที เห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงหลังการทำทันที
ที่ The Skin Clinic ให้บริการเลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การดำเนินการมีความปลอดภัยกับคนไข้มากที่สุด ที่สำคัญทางคลินิกยังเลือกใช้อุปกรณ์และเครื่องมือที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์การทำเป็นตามความต้องการ ปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง หากสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและโปรโมชั่นผ่านทาง LINE ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ขอบคุณรูปภาพจาก : Kapook / สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
READ MORE>>>
