ทรงผมชายเปลี่ยนลุคเสริมหล่อ สร้างบุคลิกภาพที่ดี
สำหรับผู้ชายนอกจากการดูแลตัวเองให้สะอาด แต่งตัวให้เหมาะสมกับกาลเทศะแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ทรงผม” มีส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้กับหนุ่ม ๆ ไม่น้อย แม้ว่าคุณจะหน้าตาดีใช่ว่าจะตัดผมทรงไหนก็ได้ เพราะหากคุณเลือกทรงผมผิดชีวิตเปลี่ยนแน่นอน ดังนั้นการเลือกทรงผมที่เหมาะกับรูปหน้าตัวเอง นอกจากจะช่วยเสริมสร้างบุคลิกที่ดีแล้ว ยังสามารถสะท้อนความเป็นตัวตนได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันทรงผมผู้ชายไม่ได้มีแค่ทรงเดิม ๆ ทั่วไป แต่มีหลายสไตล์ไม่น้อยไปกว่าผู้หญิง ล่าสุดมีเทรนด์ทรงผมชายเท่ ๆ หลายทรงที่กำลังได้รับความนิยม อาทิ ทรงผมสไตล์วินเทจ ทรงผมชายสายฝอ หรือทรงผมชายเกาหลี สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตัดผมทรงไหนดี วันนี้เราจัดอันดับ 7 ทรงผมผู้ชายมาแรง หล่อเป๊ะ ไม่ตกเทรนด์ มาแนะนำ
แนะนำทรงผมผู้ชายมาแรง 2022 หล่อทุกสไตล์
1. Slicked Back

ทรงผมชาย Slicked Back สามารถเปลี่ยนได้หลายสไตล์ในทรงเดียว หากอยากได้ลุคผู้ชายเนี๊ยบ ๆ เวลาตัดแนะนำอันเดอร์คัทด้านข้างสั้นหน่อยเพราะเวลาเซตปาดผมเปิดหน้า จะโชว์ความเท่ของใบหน้าได้เต็มที่ สำหรับผู้ที่ไม่ชอบผมสั้นมากสามารถออกแบบความสั้นยาวตามความชอบของตัวเองได้
2. Undercut

ทรงผม Undercut ที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดีมีลักษณะการไถผมด้านข้างให้สั้นแล้วปล่อยยาวด้านบน ซึ่งทรงนี้สามารถตัดได้หลายระดับและยังปรับให้เข้ากับหนุ่ม ๆ ได้ทุกสไตล์
3. Two Block

ทรงผมที่ได้รับอิทธิพลมาจากไอดอล K-Pop และยังเป็นทรงฮิตสำหรับผู้ชายเอเชีย ซึ่งทรงนี้มีความคล้ายทรง Undercut แต่ด้านบนจะซอยให้มีเลเยอร์มาจนถึงหน้าม้าและตัดไล่ระดับรับกับรูปหน้า
4. French Crop

ทรงผมผู้ชายรับหน้าร้อนที่กำลังมาแรง คือทรง French Crop ลักษณะการตัดไล่ระดับขึ้นไปค่อนข้างสูง และตัดผมบริเวณหน้าผากให้ปรกลงมาเพียงเล็กน้อย เบาสบายหัวสุด ๆ
5. Bro Flow

ทรงผมที่มีลูกเล่นและสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร คือทรง Bro Flow การไว้ผมยาวระดับปานกลาง โดยทรงนี้จะช่วยให้คุณดูเท่เซอร์มีสไตล์ อาจเพิ่มลูกเล่นด้วยการมัดผมหรือดัดลอนยิ่งทำให้ทรงนี้ดูโดดเด่นมากขึ้น
6. V-Cut

ทรงผม V-Cut เป็นการอัปเลเวลความเท่ให้ทรง Undercut ทั่ว ๆ ไป คือการไถผมด้านหลังให้เป็นรูปตัววี ทรงนี้ตัดแล้วทำให้ศีรษะดูสูงเพรียว ส่งผลให้หน้าเรียวได้อีกด้วย
7. Mullet

ทรงรากไทรจากยุค 70s นำเทรนด์โดยร็อคสตาร์อย่าง David Bowie คือทรง Mullet การตัดที่มีเอกลักษณ์ตรงผมช่วงต้นคอที่ยาวกว่าด้านข้าง ไถเปิดใบหูเล็กน้อยและมีการตัดไล่ระดับไปถึงช่วงปลายผม
ทรงผมผู้ชายมาแรงที่เรากล่าวไปข้างต้น จะเห็นว่าแต่ละทรงผมใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะสามารถตัดออกมาหล่อได้เหมือนกัน เนื่องจากบางทรงผมอาจเหมาะสำหรับผู้ที่โครงหน้าบางประเภทเท่านั้น รวมถึงความหนาของผมบนศีรษะ โดยเคล็ดลับที่ช่วยให้การตัดทรงผมออกมาหล่อเท่ คือการที่คุณมีผมหนาดกดำไม่ว่าจะตัดหรือจัดแต่งทรงผมแบบไหนล้วนออกมาดูดี เพราะฉะนั้นสำหรับหนุ่ม ๆ ที่ต้องการเปลี่ยนลุคตัวเองด้วยทรงผม แต่มีปัญหาเรื่องผมบาง ผมร่วง แนะนำ “ศัลยกรรมปลูกผม”
แนะนำปลูกผมไร้รอยแผลเย็บ 5 เทคนิค ที่ The Skin Clinic
ปลูกผมไร้รอยแผลเย็บ 5 เทคนิคตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องเส้นผม แก้ไขปัญหาศีรษะล้าน ผมร่วง ผมบาง ช่วยให้ความมั่นใจของคุณกลับมา ดังนี้
1. เทคนิคการปลูกผม FUE ( Follicular Unit Extraction)

การปลูกผมแบบไร้แผลเย็บ โดยการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอย โดยใช้เครื่องมือพิเศษหัวเจาะอัตโนมัติที่มีความแม่นยำเเละรวดเร็วในการเจาะกราฟผมบริเวณแผลด้านหลังยังมีขนาดเล็กเพียง 1 mm แล้วนำเอารากผมมาปลูกบริเวณที่ต้องการ ผลลัพธ์หลังทำ 90 – 95 % และยังอยู่ได้แบบถาวร ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ไม่มีแผลเย็บ
ณ ตอนนี้มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ปลูกผม 1,000 กราฟ เริ่มต้น 50,000 บาท ปลูกผม 2500 กราฟหรือเท่ากับ 5000 เส้น ราคาโปรอยู่ที่ 80,000 บาท จากปกติ 150,000 บาท
*** สงวนสิทธิ์ราคาโปรโมชั่น เฉพาะคนลงทะเบียนเท่านั้น
สำหรับผู้ลงทะเบียนเท่านั้น
- ฟรี Set ยากินยาทาฟรีให้ 6 เดือน
- ฟรี Treatment กระตุ้นรากผมอีก 1 ครั้ง (25,000 บาท)
- พร้อมดูแลหลังทำให้ 1 ปี
ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต
- บัตรเครดิต KTC ผ่อน 0% นาน 6 เดือน
- บัตรเครดิตกสิกร ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตกรุงเทพ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
2. การปลูกแบบ Long Hair FUE

Long Hair FUE การศัลยกรรมย้ายรากผมในเทคนิคแบบ FUE ไร้แผลเย็บ ไม่ต้องตัดผมให้สั้น เนื่องจากเครื่องมือหัวเจาะจะมีขนาดเล็กมากเจาะรูแล้วดึงเส้นผม และรากผมออกมาปลูกขณะตอนที่ผมยาวได้เลย หรือเรียกอีกอย่างว่า “ Celebrity hair transpant ” ราคาเริ่มต้น 100,000 บาท
*** ผ่อนได้นานสูงสุด 36 เดือน
สำหรับผู้ลงทะเบียนเท่านั้น
- ฟรี Set ยากินยาทาฟรีให้ 6 เดือน
- ฟรี Treatment กระตุ้นรากผมอีก 1 ครั้ง (25,000 บาท)
- พร้อมดูแลหลังทำให้ 1 ปี
ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต
- บัตรเครดิต KTC ผ่อน 0% นาน 6 เดือน
- บัตรเครดิตกสิกร ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตกรุงเทพ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
3. การปลูกแบบ RIGENERA Micrograft Hair

การนำเนื้อเยื่อจากบริเวณหนังศีรษะด้านหลัง โดยนำมาผ่านกระบวนการสกัดพิเศษคัดแยกเอาเฉพาะรากผมที่แข็งแรงสมบูรณ์ โดยใช้เครื่อง Rigenera นำเข้าจากประเทศอิตาลีในการสกัด แล้วนำที่สกัดได้ฉีดกลับยังบริเวณที่ต้องการ ราคาเริ่มต้นเพียง 50,000 บาท
***ลงทะเบียนวันนี้รับส่วนลด 5,000 บาท ทันที
ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต
- บัตรเครดิต KTC ผ่อน 0% นาน 6 เดือน
- บัตรเครดิตกสิกร ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตกรุงเทพ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
4. ปลูกผมเทคนิค ALMI Nano Fat Transfer

ปลูกผม ALMI Nano Fat Transfer การใช้ไขมันตัวเองจากบริเวณต้นขาหรือสะโพก มาสกัดให้ได้ไขมันโมเลกุลที่มีขนาดเล็ก คัดสรรเฉพาะไขมันที่แข็งแรง และมีคุณภาพสูง แล้วนำกลับไปฉีดบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ช่วยกระตุ้นรากผมให้ผลิตจำนวนเส้นผมเพิ่มมากขึ้น เริ่มต้น 30,000 บาท”
*** ลงทะเบียนรับส่วนลดทันที 5,000 บาท
ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต
- บัตรเครดิต KTC ผ่อน 0% นาน 6 เดือน
- บัตรเครดิตกสิกร ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตกรุงเทพ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
5. ปลูกผม FUE ด้วยเครื่องมือพิเศษ DHI Implanter

ปลูกผมแบบ Direct Hair Implantation (DHI) การปลูกผมโดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ชื่อว่า “DHI Implanter” ในการปักและปลูกภายในครั้งเดียว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น และด้วยความพิเศษของหัวเจาะที่มีขนาดเล็กมากเพียงแค่ 0.6 – 0.8 mm แผลจึงมีขนาดเล็ก หายไว ไม่ต้องพักฟื้น ราคาเริ่มต้นเพียง 80,000 บาท
*** ผ่อนสูงสุดนาน 36 เดือน
สำหรับผู้ลงทะเบียนเท่านั้น
- ฟรี Set ยากินยาทาฟรีให้ 6 เดือน
- ฟรี Treatment กระตุ้นรากผมอีก 1 ครั้ง (25,000 บาท)
- พร้อมดูแลหลังทำให้ 1 ปี
ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต
- บัตรเครดิต KTC ผ่อน 0% นาน 6 เดือน
- บัตรเครดิตกสิกร ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
- บัตรเครดิตกรุงเทพ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
READ MORE>>>