บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นลดการเกิดสิวได้จริงหรือ?
เรื่องสิวไม่ได้สิว ๆ ตามชื่อเลย เมื่อไหร่ก็ตามที่มีสิวผุดขึ้นมาทักทายบนใบหน้า ความมั่นใจก็ลดน้อยลงไปกว่าครึ่ง โดยเฉพาะในวันสำคัญที่อยากจะหน้าใสไร้สิว มักจะมีสิวเม็ดใหญ่โผล่มาให้ต้องปกปิดทุกที คนที่มีปัญหาสิวเป็นประจำจึงมีไอเทมกอบกู้หน้า ทลายสิว ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA BHA และวิตามินต่าง ๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนมักจะมองข้ามและเป็นตัวช่วยลดสิวที่อ่อนโยน สิ่งนั้นก็คือ “มอยซ์เจอไรเซอร์ (Moisturizer)” นั่นเอง
มอยซ์เจอร์ไรเซอร์คืออะไร?
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักมอยซ์เจอร์ไรเซอร์กันก่อน มอยซ์เจอร์ไรเซอร์เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีจุดเด่นในเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว หลังจากบำรุงผิวด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ไปเรื่อย ๆ แล้วจะรู้สึกได้ว่าผิวอิ่มน้ำ นุ่มฟู และเด้งขึ้นกว่าเดิม ลดปัญหาผิวแห้ง ผิวลอก ลดการอักเสบของผิวจากการทำร้ายจากแดดและความร้อนต่าง ๆ มอยซ์เจอร์ไรเซอร์จึงถือเป็นไอเทมที่ช่วยในการปลอบประโลมผิวให้แข็งแรง

มอยซ์เจอร์ไรเซอร์นิยมเรียกสรรพคุณโดยรวมว่า TEWL (Transepidermal Water Loss) หรือการป้องกันการสูญเสียน้ำ เพราะมอยซ์เจอร์ไรเซอร์จะทำหน้าที่ดึงน้ำจากผิวออกมายังผิวหนังชั้นนอก ทำให้มองแล้วผิวหน้าดูชุ่มชื้นฉ่ำน้ำตลอดเวลานั่นเอง
มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ช่วยลดการเกิดสิวได้อย่างไร?
คนเป็นสิวหลายคนเชื่อว่ามอยซ์เจอร์ไรเซอร์จะไปอุดตันบนใบหน้า ทำให้มีสิวอุดตันเกิดขึ้นมา ขอบอกว่าความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริง การอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้หากเลือกมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่มีน้ำมัน หรือการปรุงแต่งอื่น ๆ เช่น น้ำหอม สารกันเสีย แต่ปัจจุบันมีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่ออกแบบมาสำหรับคนผิวแพ้ง่าย และเป็นสิวโดยเฉพาะแล้ว หากเลือกให้ดี โอกาสอุดตันน้อยมาก มาดูประโยชน์ของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์กับผิวเป็นสิวกันดีกว่า
– เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ปลอบประโลมผิวอักเสบจากสิว
– ช่วยในเรื่องสมดุลของน้ำมันบนผิวหน้า หน้ามันน้อยลง การอุดตันน้อยลง
– เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว โอกาสเกิดสิวจึงน้อย
เรียกได้ว่ามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ออกแบบมาเพื่อฟื้นคืนใบหน้าจากระดับเล็กสู่ระดับใหญ่ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวหลากหลายแบบเกิดขึ้น ผู้บริโภคสามารถเลือกแบบที่เหมาะกับตนเองได้
การเลือกมอยซ์เตอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับผิวหน้า
ผิมของคนเราสามารถแบ่งได้หลัก ๆ 4 ประเภท คือ ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน และผิวผสม การเลือกมอยซ์เจอร์ไรเซอร์จึงควรเลือกให้เหมาะกับผิวด้วย ดังนี้
1.) ผิวธรรมดา
คนที่มีผิวธรรมดาจะเป็นผิวที่มีความชุ่มชิ้นในระดับดี ผิวไม่แห้งหรือมันระหว่างวันจนเกินไป สามารถใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ได้ทุกประเภท แนะนำมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เนื้อน้ำ Water-based เพื่อการซึมซาบที่ดีลงสู่ผิว
2.) ผิวแห้ง
คนที่มีผิวแห้งจะประสบปัญหาผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และอักเสบบ่อยครั้ง ต้องเติมน้ำให้ผิวผ่านครีมบำรุงเป็นประจำ มอยซ์เตอร์ไรเซอร์แนะนำจึงเป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เนื้อน้ำมัน Oil-based เพื่อเพิ่มความมันวาวให้ผิวหน้าฉ่ำน้ำด้วย
3.) ผิวมัน
คนที่มีผิวมันจะมีผิวที่ค่อนข้างมันง่ายกว่าคนอื่น ประสบปัญหาหน้ามันระหว่างวันมาก การใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์จะช่วยปรับสมดุลของน้ำบนใบหน้า แนะนำมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เนื้อน้ำ และควรเลือกแบรนด์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
4.) ผิวผสม
คนที่มีผิวผสมจะมีผิวแบบธรรมดาปนกันผิวมัน คือช่วง T – Zone หรือหน้าผาก จมูก และคางจะมีความมันง่าย แต่บริเวณอื่น ๆ ไม่มัน ควรใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์เนื้อน้ำ แต่ควรเลือกรุ่นที่เนื้อมอยซ์เจอร์ไรเซอร์มีความข้นเล็กน้อย เพื่อให้เติมน้ำลงผิวได้เต็มที่
มอยซ์เจอร์ไรเซอร์เป็นพื้นฐานของการบำรุงและเติมความแข็งแรงให้ใบหน้าทุกสภาพผิว ช่วยในการลดปัญหาสิวด้วย เมื่อสิวน้อยลง รอยสิวก็น้อยลง แต่ถ้าใครเผลอไปแคะ แกะ เกา สิวจนเกิดเป็นรอยสิวขึ้นมาก็อาจจะหนักใจเพิ่มในเรื่องของการรักษารอยสิวและหลุมสิว แนะนำเลเซอร์หลุมสิวจาก The Skin Clinic ที่ช่วยทำลายพังผืดบริเวณหลุมสิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวจึงกระจ่างใส เนียนขึ้น และปัญหาหลุมสิวจางลง สอบถามเพิ่มเติมได้ทาง LINE ของ The Skin Clinic ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
READ MORE >>>