ผลข้างเคียงดูดไขมันที่ควรรู้ หุ่นสลิมสวยปลอดภัย
ความอ้วนเป็นปัญหาหนักใจของคนส่วนใหญ่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เนื่องจากพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ผู้คนทานตามใจปากมากขึ้น และยังมีพฤติกรรมไม่ค่อยออกกำลังกาย ด้วยปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะไม่มีเวลา ทำให้หลายคนเริ่มมีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกินเกณฑ์ แน่นอนว่าวิธีลดลดน้ำหนักที่เป็นพื้นฐานคือการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่อย่างไรก็ตามด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีความงามสมัยใหม่ ทำให้มีตัวช่วยลดสัดส่วนหลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการดูดไขมัน ที่เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกันมานาน เพราะได้รับความนิยมอย่างมาก รวมถึงมีข่าวเกี่ยวกับการดูดไขมันให้ได้ผ่านหูผ่านตากันบ่อย ๆ ซึ่งก็เป็นข่าวอันตรายของการดูดไขมันที่ทำให้เสียชีวิต เรียกได้ว่าทำให้หลายคนที่ได้ยินคำว่าดูดไขมันก็จะนึกถึงข่าวทันที ในขณะเดียวกับผู้ที่สนใจดูดไขมันก็เกิดความสงสัยว่าดูดไขมันอันตรายจริงไหม และมีความลังเลใจว่าจะทำหรือไม่ทำดี แม้ในปัจจุบันเทคนิคดูดไขมันจะพัฒนาเพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุด อย่างไรก็ตามควรหาข้อมูลความรู้ก่อนตัดสินใจทำ เพื่อให้ได้หุ่นฟิต หุ่นสลิม และสวยอย่างปลอดภัย
ทำความรู้จัก ดูดไขมันลดสัดส่วนคืออะไร
การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นวิธีลดสัดส่วนกระชับหุ่นโดยใช้เครื่องมือทันสมัยที่คล้ายท่อยาว ใส่เข้าใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินจากบริเวณต่าง ๆ ออกมา เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา ก้น หรือเหนียงที่คอ ซึ่งมักจะเป็นบริเวณที่มีไขมันสะสม ทั้งนี้การดูดไขมันไม่สามารถดูดครั้งละปริมาณมากในครั้งเดียว เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเสียเลือดมาก อีกทั้งการดูดไขมันไม่ทำให้เซลลูไลท์ที่ส่งผลให้เป็นผิวเปลือกส้มหายไปได้ รวมถึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และยังมีอีกข้อสำคัญที่หลายคนมักจะเข้าใจผิดคือดูดไขมันเพื่อลดความอ้วน แต่ความจริงคือการดูดไขมันไม่ใช่วิธีการลดความอ้วน แต่เป็นการลดไขมันเฉพาะส่วนและลดสัดส่วนร่างกายให้กระชับขึ้นเท่านั้น

ดูดไขมันเหมาะกับใคร อ้วนมากสามารถทำได้ไหม
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่าการดูดไขมันไม่ใช่การลดความอ้วน ดังนั้นหลายคนย่อมต้องมีความสงสัยว่าสรุปแล้ว การดูดไขมันเหมาะกับใคร และหากอ้วนมากสามารถทำได้ไหม โดยวิธีดูดไขมันนั้นเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมในบริเวณบางส่วนของร่างกาย, ผู้ที่ไม่ได้อ้วนทั้งตัวหรือน้ำหนักเกินเกณฑ์มากเกินไป และผู้ที่ผิวหนังยืดหยุ่นดี
ส่วนข้อสงสัยที่ว่าเป็นคนอ้วนมากสามารถดูดไขมันได้ไหม คำแนะนำคือให้ลดความอ้วนจนถึงเกณฑ์ที่สามารถดูดไขมันได้ก่อน แล้วจึงค่อยเข้ารับการดูดไขมันเพื่อให้สัดส่วนกระชับมากขึ้น เนื่องจากความอ้วนถือเป็นปัจจัยเสี่ยงอันตรายอย่างหนึ่งของการผ่าตัด

ดูดไขมันอันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้การดูดไขมันอันตราย มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
1. อันตรายจากยาชาและยาสลบ
ในการใช้ยาชา ผู้เข้ารับการดูดไขมันบางรายอาจจะมีอาการแพ้ ร่างกายดูดซึมมากเกินไป ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ ส่วนการฉีดยาสลบ หากต้องดูดไขมันจำนวนมากก็ต้องใช้ยาสลบมากตามไปด้วย ทำให้มีความเสี่ยงอันตรายจากยามากขึ้น รวมถึงในขั้นตอนดูดไขมันอาจต้องมีการพลิกตัว นอนตะแคง นอนคว่ำ ทำให้เสี่ยงทางเดินหายใจตีบ ตัน หรือระบบปอดและหัวใจทำงานได้ไม่ดี รวมถึงการใช้ยาชาและยาสลบ จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์และวิสัญญีแพทย์ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับร่างกายของผู้เข้ารับการดูดไขมัน
2. อันตรายในระหว่างดูดไขมัน
ยิ่งดูดไขมันปริมาณมากยิ่งเสี่ยงมาก เนื่องจากการดูดไขมันจะมีการฉีดยาสารน้ำบางอย่างเข้าสู่ร่างกายให้อ่อนนุ่ม เพื่อให้ในระหว่างที่ดูดไขมันไม่เจ็บมากและเลือดไม่ออก ซึ่งผู้รับการดูดไขมันบางรายอาจมีอาการแพ้ส่วนประกอบบางชนิดในยา และสิ่งสำคัญคือต้องมีการคำนวณปริมาณยาที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัว หากให้ปริมาณยาพลาดอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และระยะเวลาในการผ่าตัดที่นานเกิน 6 ชั่วโมง จะทำให้เสี่ยงภาวะแทรกซ้อนได้ รวมถึงในระหว่างดูดไขมันยังมีความเสี่ยงมาจากการใส่ท่อ หากไม่มีความชำนาญก็อาจทำให้เป็นอันตรายได้เช่นกัน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการดูดไขมันมีทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรง เช่น ผิวไม่เรียบ ผิวเป็นคลื่น ชาบริเวณแผลผ่าตัด ปวดแผล ติดเชื้อ มีภาวะเลือดออกบริเวณแผลผ่าตัด มีภาวะแทรกซ้อนจากการดูดไขมันออกจากร่างกายในปริมาณมากเกินไป
จากปัจจัยเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ข้างต้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจดูดไขมันคือ ควรเลือกคลินิกเสริมความงามหรือสถานพยาบาลที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการดูดไขมัน และรับคำปรึกษากับแพทย์ก่อน เพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุด
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
- แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองให้กับแพทย์อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว โรคร้ายแรง การแพ้ยา แพ้อาหาร มีประวัติผ่าตัดและได้รับยาระงับความรู้สึก ยาโรคประจำตัวที่รับประทานเป็นประจำ รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
- เข้ารับการตรวจเอกซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง ในกรณีที่มีโรคประจำตัวหรือมีภาวะเสี่ยงอันตรายจากการผ่าตัดหรือใช้ยาสลบ
- งดรับประทานยา ยาบำรุง อาหารเสริม หรือสมุนไพรบางชนิดก่อนเข้ารับการดูดไขมันอย่างน้อย 7 วัน
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 6 สัปดาห์ก่อนดูดไขมัน เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อตายจากการขาดเลือดมาเลี้ยง และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- ในกรณีที่ต้องดมยาสลบควรงดน้ำและอาหารก่อนดูดไขมัน
- อาบน้ำสระผม ทำความสะอาดร่างกาย ห้ามทาเล็บ สวมใส่เสื้อผ้าที่สะดวกต่อการเปลี่ยนเสื้อผ้าในวันที่ดูดไขมัน
- หลีกเลี่ยงการดูดไขมันช่วงมีประจำเดือนสำหรับผู้หญิง
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน
- หลังดูดไขมัน 24-48 ชั่วโมง จะมีอาการปวดแสบร้อน บวม รวมถึงมีรอยเขียวช้ำบริเวณแผล ให้รับประทานยาแก้ปวดและประคบเย็น
- ใช้ผ้ายืดรัดหรือสวมใส่ชุดรัดรูป เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับและลดอาการบวมบริเวณผิวหนังที่ดูดไขมัน โดยอาการจะดีขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน
- หลังดูดไขมันประมาณ 3 วัน หากแผลไม่มีอาการปวด บวม แดง แสบร้อน และแผลแห้งดี สามารถอาบน้ำได้แต่ต้องซับแผลให้แห้ง และห้ามทาแป้งหรือโลชั่นบริเวณที่เป็นแผล
- งดออกกำลังกายหลังเข้ารับการดูดไขมันประมาณ 1 เดือน
- ห้ามทายาลดแผลเป็นนูนหลังตัดไหมเมื่อครบกำหนด 1 สัปดาห์ แต่ให้ถูนวดเบา ๆ แทน
- ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รูปร่างยังคงกระชับ
ดูดไขมันที่ The Skin Clinic ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ปลอดภัย
สำหรับผู้ที่สนใจดูดไขมัน ขอแนะนำทำที่ The Skin Clinic มีเทคโนโลยีดูดไขมันใหม่ล่าสุดเพื่อลดกระชับสัดส่วนอย่างปลอดภัย ด้วยเครื่อง Quadrostar (Laser lipolysis) เป็นเทคโนโลยีคุณภาพจากประเทศเยอรมัน ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์กรอาหารและยา สหรัฐอเมริกา มีคุณสมบัติช่วยดูดไขมันลดสัดส่วนแล้วผิวไม่หย่อนคล้อย ผิวกระชับมากกว่าการดูดไขมันแบบปกติ เห็นผลรวดเร็ว แผลเล็ก พักฟื้นไม่นานหรือไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำได้ตามปกติ
โปรโมชั่นพิเศษ ดูดไขมันราคาเพียงจุดละ 12,500 บาท สำหรับผู้ลงทะเบียนเท่านั้น

READ MORE>>>